รีเซต

จับคู่รักค้า เฮโรอีน ซุกซองเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่งต่างประเทศ

จับคู่รักค้า เฮโรอีน ซุกซองเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่งต่างประเทศ
ข่าวสด
19 ตุลาคม 2564 ( 13:31 )
98

ป.ป.ส. ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกจับ 2 ผู้ต้องหาค้า เฮโรอีน ซุกซองเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่งขายข้ามชาติ ยึดของกลางกว่า 2 ล้านบาท

 

วันที่ 19 ต.ค.2564 หน่วยปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลของอาเซียน หรือ Seaport Interdiction Task Force (SITF) ประกอบด้วย ป.ป.ส., บช.ปส., ศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 ราย คือ นายนายอลิจันโด อายุ 30 ปี สัญชาติจีน-ฮ่องกง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 675 ลงวันที่ 15 ต.ค.2564

 

และ น.ส.ทิวา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 677 ลงวันที่ 15 ต.ค.2564 ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 1 ถุงเล็ก และตรวจค้นพบเครื่องซีล (ใช้ในการแพ็กซุกซ่อนยาเสพติดในห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง อยู่ในรถยนต์ส่วนตัวของนายอลิจันโดที่จอดไว้หน้าบ้าน

 

ป.ป.ส. ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกจับ 2 ผู้ต้องหาค้า เฮโรอีน ซุกซองเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่งขายข้ามชาติ

 

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นการจับกุมตามหมายจับ ความผิดในฐานสมคบกันกระทำความผิดในคดียาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 8 และ ร่วมกันมีส่วนร่วมในอาชญากรรมข้ามชาติ (มีพฤติการณ์ลักลอบส่งยาเสพติดไปต่างประเทศ)

 

สืบเนื่องจากกรณีที่ ป.ป.ส. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรฮ่องกง ว่าเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2564 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฮ่องกง ได้ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักประมาณ 61 กิโลกรัม ซุกซ่อนในซองเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง พร้อมจับกุมผู้ต้องหาชาวฮ่องกง 3 ราย จากนั้น SITF สืบสวนและตรวจสอบพบว่าสินค้ารายการนี้จัดส่งจากประเทศไทย

 

โดย ผู้ส่งคือ นายอลิจันโด ร่วมกับ น.ส.ทิวา ซึ่งเป็นแฟนสาว และ นายชัว ยิค แลม สัญชาติจีน-ฮ่องกง เพื่อนของนายอลิจันโด ขณะเข้าจับกุมเดินทางออกนอกประเทศ ช่วยกันแพ็กและขนสินค้าดังกล่าวไปส่งที่บริษัทขนส่ง ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสอบ และกระทั่งวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้อนุมัติหมายจับทั้ง 3 ราย

 

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า การจับกุมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามมาตรการสมคบฯ แล้ว ยังดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คือ ปราบปรามผู้ค้า ยาเสพติด และเครือข่ายการค้ายาเสพติด จนนำไปสู่การขยายผลยึดทรัพย์สิน ในคดีนี้ สามารถยึดทรัพย์สิน ได้แก่

 

 

1.รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อย่ามาฮา 3.รถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่นไตรทัน 4.รถจักรยานยนต์ 5.บัญชีธนาคารจำนวนหนึ่ง 6.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ Rolex จำนวน 1 เรือน และ 7.ทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง รวมทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 2 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน และของกลางทั้งหมด เข้าไปทำบันทึกตรวจยึดทรัพย์สิน บันทึกจับกุมและส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง