นายกฯ เผย เตรียมออกหมายจับคดีตึก สตง.ถล่ม เร็วๆ นี้

เช้าวันนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าร่วมรายงานผลการตรวจสอบ
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีแถลงต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าจากทั้งตำรวจและ DSI พร้อมเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะการส่งมอบเอกสารหลักฐานสำคัญซึ่งยังล่าช้า ทั้งนี้เพื่อความรับผิดชอบต่อชีวิตที่สูญเสียไปจำนวนมาก
"เรื่องนี้รอไม่ได้ ต้องเร่งหาหลักฐานและเหตุผลให้ครบ" นายกฯ กล่าว พร้อมระบุว่ารัฐบาลจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้ง สตง. ในประเด็นรายงานผลจากคณะกรรมการตรวจสอบที่พบว่ามีการผิดสัญญาแต่ไม่มีการยกเลิกสัญญาตั้งแต่มกราคม 2568 รวมถึงข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาและกรมทรัพยากรธรณีเกี่ยวกับผลกระทบจากแผ่นดินไหวต่อพื้นที่กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ นายกฯ ยังระบุว่าจะขอความร่วมมือจากกรมบัญชีกลางซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้าง และกรมโยธาธิการและผังเมืองที่ร่วมตรวจรับการออกแบบก่อสร้างและตรวจรับงาน โดยเน้นย้ำว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในการตรวจรับจากกรมโยธาธิการควรแยกออกจากกระบวนการสืบสวนด้วย
ทั้งนี้ DSI กำลังดำเนินคดีในหลายประเด็น ทั้งมาตรฐานของเหล็กและคุณภาพปูนที่ไม่ได้มาตรฐาน การแก้ไขแบบที่แกนกลางของ Core Wall และ Core lifts ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของตึกโดยไม่มีการเสริมเหล็ก ทำให้เกิดความเสี่ยงในอาคาร รวมถึงการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและการฮั้วประมูล
นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะเน้นย้ำเรื่องนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง และต้องการให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลยประเด็นนี้ส่วนตัวตนเองรับเรื่องนี้ไม่ได้กับการที่มีคนเสียชีวิตไปด้วยเหตุผลที่มีตึกถล่มหนึ่งตึก ถ้าเกิดแผ่นดินไหวแรงเหมือนในเมียนมาทั้งหมด มันห้ามไม่ได้ แต่อันนี้มีเพียงแค่หนึ่งตึก และตนเองก็ติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง สำหรับการทำโมเดลตึกถล่มที่คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 90 วัน จะเป็นการหาเหตุผลโดยละเอียด ทั้งปัจจัยด้านลมและแรงสั่นสะเทือน แต่ในระหว่างนี้ต้องตรวจสอบความถูกต้องของการดำเนินงานต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้น
นายกฯ เผยว่า ได้สั่งการให้ออกหมายจับได้ทันทีเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ และคาดว่าจะเริ่มมีการออกหมายจับในเร็วๆ นี้ พร้อมยืนยันว่าการที่มีตึกถล่มเช่นนี้ "เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีคนผิด" โดยมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงลายเซ็นซึ่งต้องตรวจสอบต่อไป
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การดำเนินคดีจะเป็นไปตามหลักฐาน ไม่มีการเหมารวม และการไม่มีผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้