รีเซต

นายกฯ จี้หาสาเหตุตึก สตง.ถล่มให้ได้ หวั่นประเทศไทยอยู่ยาก DSI รับสอบธุรกิจต่างด้าวเป็นคดีพิเศษ

นายกฯ จี้หาสาเหตุตึก สตง.ถล่มให้ได้ หวั่นประเทศไทยอยู่ยาก  DSI รับสอบธุรกิจต่างด้าวเป็นคดีพิเศษ
TNN ช่อง16
1 เมษายน 2568 ( 11:35 )
10

              นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 13 ประจำปี 2568  วันอังคารที่ 1 เมษายน2568 นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในการประชุม ดังนี้  เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา จากสถานการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยได้รับผลกระทบทำให้สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ และกรุงเทพมหานคร 

            โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงาน และระดมทุกสรรพกำลัง จากทั้งภาครัฐ เอกชน และอาสาสมัคร ในการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว  รัฐบาลขอขอบคุณจากใจ ถึงความเสียสละของทุก ๆ ท่าน ที่ร่วมมือกันจนสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว     

               แต่เพื่อเป็นการป้องกัน การเตรียมรับมือ และมีมาตรการที่ชัดเจนในการรับมือ อุบัติภัย ภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆทุกประเภท ทั้ง อุทกภัย สึนามิ ไฟป่า รวมถึงแผ่นดินไหว โดยขอสั่งการดังนี้

               1.ให้กระทรวงมหาดไทย - ให้ดำเนินการจัดทำแผน และมาตรการในการป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆโดยมีการแบ่งหน้าที่ และขั้นตอนต่าง ๆ อย่างชัดเจน (Flowchart) เพื่อให้เกิดความเข้าใจกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับมาเสนอภายในสิ้นเดือนนี้   และ" ขอให้ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย  ปภ. หามาตรการในการประสานงานกับทางกระทรวง DE กรมอุตุนิยมวิทยา และ กสทช. ในการส่งข้อความเตือนภัย ที่ชัดเจน และรวดเร็วมากขึ้นให้มีการใช้ระบบ Virtual cell broadcast กับอุปกรณ์โทรศัพท์ทุกรูปแบบ

                ทั้งนี้ ระหว่างการรอระบบ Cell broadcast ที่จะเสร็จสมบูรณ์ในเดือน กรฎาคมนี้

เพื่อให้ระบบสื่อสารเตือนภัยมีประสิทธิภาพสูงสุด ในการเตือนภัยแก่สาธารณชน ในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งจากภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว น้ำท่วม ดินถล่ม อุบัติเหตุ อุบัติภัยต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ อุบัติภัยครั้งใหญ่บนท้องถนนเป็นต้น แม้กระทั่งการรุกรานจาก cyber crime โดยให้ศึกษาในประเทศต่าง ๆ ที่มีบทเรียนที่ดีในเรื่องภัยภิบัติต่างๆ    

              และให้ทางกรมโยธาธิการฯ เร่งออกมาตรการ ข้อกำหนดในการตรวจสอบอาคารสูงทุกอาคาร เพื่อให้ได้มาตรฐาน โดยร่วมมือกับทาง กทม. และสมาคมที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ และ ควรจะกำหนดเกณฑ์มาตรฐานและออกใบรับรองมาตรฐานอาคาร เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยว

             2. สั่งการให้ กระทรวงการต่างประเทศ  เร่งปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ ที่มีความพร้อมในระบบเตือนภัย เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป นิวซีแลนด์  และ อิสราเอล โดยประสานผ่านสถานทูต เพื่อเชิญมาประชุม กับผู้ที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย เพื่อกำหนดแนวทางปฎิบัติสำหรับประเทศไทยให้เร็วที่สุด 

             3. ให้กระทรวงสาธารณสุข   วางแผนในการเตรียมการรับมือทั้งแพทย์ฉุกเฉิน เตียงสนามให้เพียงพอ รวมถึงจิตแพทย์ที่จะดูแลฟื้นฟูผู้ที่รับผลกระทบ

              4.กระทรวงท่องเที่ยวฯ - สั่งการให้ เร่งสื่อสารกับนักท่องเที่ยว หรือชาวต่างชาติที่าาทำงานในประเทศไทย ให้ได้รับข้อความเตือนภัย และแผนรับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน 

               5.ให้กระทรวงทรัพยากรฯ - ระดมนักวิชาการทางด้านธรณีวิทยา เพื่อรวบรวมข้อมูลและจัดทำข้อเสนอแนะในมาตรการรับมือที่ถูกต้อง และป้องกันภัยได้อย่างรัดกุมที่สุด รวมถึงการตรวจระบบอุปกรณ์เตือนภัยต่าง ๆ ที่เคยมีอยู่ ให้สามารถใช้งานได้อย่างปกติ เช่น ระบบเตือนภัยสึนามิ ตลอดจนการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้มากยิ่งขึ้น

                6. ให้กระทรวงศึกษาธิการ - เร่งเพิ่มเติมหลักสูตร และแผนการรับมือภัยธรรมชาติ ในทุกรูปแบบให้กับ นักเรียนนักศึกษาทุกระดับ

                 7.ขอให้กระทรวงคมนาคม - เร่งตรวจสอบเส้นทางคมนาคม ทุกมิติให้มีความพร้อมในการให้บริการกับประชาชน รวมถึงตรวจสอบงานก่อสร้างขนาดใหญ่ให้ได้มาตรฐานสามารถ รองรับภัยธรรมชาติต่าง ๆ ได้

                 8.ให้สำนักนายกรัฐมนตรี - ร่วมมือกับ กรม.ปภ. เร่งสรุปมาตรการในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็ว ตามที่กฎหมายกำหนด

                 9.ให้กรมประชาสัมพันธ์ - เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสารที่ถูกต้อง อย่างทั่วถึงรวมทั้งกระจายไปยังช่องทางต่างๆให้ครบถ้วนทั้งสถานีวิทยุ โทรทัศน์  และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook หรือ LINE รวมทั้งให้ประสานขอความร่วมมือกับ เอกชน ที่มีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่สามาารถขึ้นภาพได้ทันที เพื่อให้เกิดการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง

               

 นายจิรายุ กล่าวต่ออีกว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการ ให้คณะกรรมการสืบหาต้นเหตุของตึกก่อสร้าง สตง.ถล่มในครั้งนี้ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานนั้ย  ให้เร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริงภายใน7วันหากมีมีความผิดต้องดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

            “อาคารก่อสร้างถล่มครั้งนี้ ต้องหาสาเหตุ และ หาผู้รับผิดชอบให้ได้ ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะอยู่ยาก ต้องมีผู้รับผิดชอบเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป  “

         จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้สอบถาม ในแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้อง   โดยพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รายงาน ต่อ ครม.ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษหรือdsiได้รับเป็นคดีพิเศษเพื่อติดตามตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่พบว่ามี นอมินี มากถึง 17 บริษัท ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวรับงานส่วนราชการไปทั้งหมด 11 งาน 10 งานอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนงานที่แล้วเสร็จเป็นอาคารเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งจะเข้าดำเนินการตรวจสอบต่อไป

         ขณะนายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ รมว.ระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า ผลของการตรวจสอบเหล็กพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานโดยจะส่งข้อมูลให้พนักงานสอบสวน เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง