รีเซต

บีโอไอดึงจีนสร้างธุรกิจใหม่ในไทยยุคโควิด

บีโอไอดึงจีนสร้างธุรกิจใหม่ในไทยยุคโควิด
TNN ช่อง16
18 มิถุนายน 2563 ( 16:40 )
100
บีโอไอดึงจีนสร้างธุรกิจใหม่ในไทยยุคโควิด

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 23 มิถุนายน 2563นี้  บีโอไอ ร่วมกับ สภาส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของจีนประจำประเทศไทย (CCPIT) และสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย-จีน จะจัดการสัมมนาการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการจีนในไทย และนักลงทุนในจีนที่สนใจ ผ่านระบบออนไลน์ (Webinar) ในหัวข้อ “Think Resilience, Think Thailand” เพื่อนำเสนอโอกาสขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ และมาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นการลงทุนในช่วงโควิด พร้อมทั้งนำเสนอบริการสมาร์ท วีซ่า ให้แก่นักลงทุนจีน อีกทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ปัญหาและอุปสรรค และข้อเสนอแนะเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน โดยคาดว่าจะมีผู้บริหารจากบริษัทจีนและสมาชิกสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย-จีน เข้าร่วมกว่า 300 ราย 

 

การจัดสัมมนาครั้งนี้ เป็นกิจกรรมใหญ่ครั้งแรกสำหรับนักลงทุนจีนนับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด ซึ่งบีโอไอได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมมาเป็นการสัมมนาออนไลน์เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยจีนเป็นประเทศที่มีมูลค่าคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงที่สุดตั้งแต่ปีที่แล้ว และมองว่าในช่วงปี 2563 – 2564 การลงทุนจากจีนจะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ทั้งผลจากสงครามการค้า และการปรับโครงสร้างการลงทุนของหลายบริษัทเพื่อกระจายความเสี่ยงหลังโควิด รวมทั้งทิศทางการมุ่งออกสู่ต่างประเทศของธุรกิจจีน และต้นทุนการผลิตในจีนที่สูงขึ้นมากก็เป็นปัจจัยผลักดัน

 

ขณะที่ ไทยมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เหมาะสม มีความมั่นคงปลอดภัย มีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนและนานาประเทศ โครงสร้างพื้นฐานมีคุณภาพสูง โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่นักลงทุนจีนให้ความสนใจมาก อีกทั้ง มีซัพพลายเชนที่ครบวงจร และมีสิทธิประโยชน์จูงใจจากภาครัฐ ซึ่งบีโอไอ หวังว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงช่วยให้นักลงทุนจีนมองเห็นโอกาสการลงทุนใหม่ๆ และมีความเข้าใจในมาตรการสนับสนุนต่างๆ แต่จะช่วยตอกย้ำให้นักลงทุนจีนเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม – พฤษภาคม 2563) มีโครงการลงทุนจากจีนยื่นขอรับการส่งเสริม จำนวน 82 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 15,069 ล้านบาท นับว่าสูงที่สุดของการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งในแง่จำนวนโครงการและเงินลงทุน ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์โลหะ เคมีภัณฑ์และพลาสติก เครื่องจักรและอุปกรณ์ อาหารแปรรูป และอุตสาหกรรมเบา เช่น กระเป๋าเดินทาง เครื่องกีฬา และเฟอร์นิเจอร์

 

เกาะติดข่าวที่นี่ 

website: www.TNNThailand.com 

facebook : TNNThailand 

facebook live : TNN Live 

twitter : @TNNThailand 

Line : @TNNONLINE 

Youtube Official : TNNThailand

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง