รีเซต

หุ้นชิปจีนร่วงแรงจับตาสงครามเทคโนโลยี

หุ้นชิปจีนร่วงแรงจับตาสงครามเทคโนโลยี
TNN ช่อง16
15 ตุลาคม 2568 ( 12:16 )
11

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปของจีนร่วงลงหนักในวันอังคาร ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าและการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่กลับมาปะทุอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศเข้าควบคุมกิจการของบริษัท Nexperia หนึ่งในผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของยุโรป ซึ่งเดิมเป็นบริษัทลูกของจีนภายใต้การถือหุ้นของ Wingtech Technology โดยให้เหตุผลว่าเป็น “ประเด็นด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี” เพราะ Nexperia มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของยุโรป การตัดสินใจดังกล่าวถูกมองว่าเป็นสัญญาณชัดเจนของ “ท่าทีเข้มงวดขึ้นของยุโรป” ต่อบริษัทเทคโนโลยีจากจีน หลังจากหลายประเทศทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ เพิ่มการตรวจสอบธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีสำคัญถูกควบคุมโดยต่างชาติ

แรงกดดันจากเหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการเทขายอย่างรุนแรงในตลาดหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิปในจีน SMIC หรือ Semiconductor Manufacturing International Corp. ร่วงลงกว่า 6%, Hua Hong Semiconductor ลดลงเกือบ 10%, Cambricon Technologies บริษัทออกแบบชิป AI ร่วงกว่า 3–4%, ขณะที่ Wingtech Technology เจ้าของ Nexperia ถูกเทขายหนักที่สุดถึง 10% ส่งผลให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงทั้งสองแห่งปิดลบพร้อมแรงขายกระจายไปยังหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ ด้วย

ความผันผวนในตลาดครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากคำขู่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่งประกาศว่าอาจเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน สูงสุดถึง 100% โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ “แร่หายาก (Rare Earth)” ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์หรือชิปอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่รัฐบาลจีนตอบโต้ทันควันโดยกล่าวหาว่าสหรัฐฯ “ใช้การค้าเป็นเครื่องมือทางการเมือง” และเตือนว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้เต็มรูปแบบหากสหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีตามประกาศ

สำหรับตลาดภายในประเทศ จีนยังคงให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมชิปในฐานะ “ยุทธศาสตร์แห่งชาติ” เพราะรัฐบาลปักกิ่งประกาศเป้าหมายชัดว่า จะพัฒนาเทคโนโลยีให้พึ่งพาตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะในด้าน ชิป AI เพื่อลดการพึ่งพาซัพพลายจากสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สร้างแรงหนุนให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนพุ่งแรงหลายเดือนติดต่อกัน โดยเฉพาะ SMIC และ Cambricon ที่ถูกมองว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม แต่ในอีกด้านหนึ่ง ความคาดหวังที่สูงเกินจริง และราคาหุ้นที่ขึ้นแรงเกินพื้นฐาน กลับกลายเป็นแรงกดดันระยะสั้น เมื่อนักลงทุนเริ่มทยอยขายทำกำไร ขณะที่ข่าวด้านภูมิรัฐศาสตร์ยิ่งเร่งแรงขายให้รุนแรงยิ่งขึ้น

นักวิเคราะห์ในจีนและฮ่องกงให้ความเห็นตรงกันว่า การร่วงลงของหุ้นชิปในรอบนี้ไม่ได้สะท้อนการชะลอตัวของผลประกอบการโดยตรง แต่เป็นปฏิกิริยาต่อความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง โดยเฉพาะความกังวลว่าชาติตะวันตกอาจเดินหน้า “แบนเทคโนโลยีจีนรอบใหม่” ซึ่งจะกระทบต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตระดับสูง เช่น เครื่องจักรจาก ASML และซอฟต์แวร์ออกแบบชิปจากบริษัทสหรัฐฯ ที่จีนยังคงต้องพึ่งพาอยู่ในหลายขั้นตอน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง