บริษัทเทคฯ ในเกาหลีใต้ ระดมทีมพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
วันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ประกอบด้วยบริษัท ซัมซุง (Samsung), บริษัท เอสเค (SK), บริษัท แอลจี (LG) และบริษัท ฮุนไดมอเตอร์ (Hyundai Motor Group) จับมือสร้างพันธมิตรพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับยุคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
โดยแต่ละบริษัทรับผิดชอบพัฒนาในเทคโนโลยีที่ตนเองมีความถนัด เช่น บริษัท ซัมซุง (Samsung) รับผิดชอบการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า บริษัท เอสเค (SK) รับผิดชอบการพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยบริษัท ฮุนได (Hyundai) และเกีย (Kia) รับผิดชอบการประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยคาดว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายสำคัญ
การรวมกลุ่มของบริษัทขนาดใหญ่ทั้ง 3 แห่ง จะมีส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก โดยแต่ละบริษัทไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแต่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่แล้ว เช่น บริษัท แอลจี (LG) ผลิตชิ้นส่วนหน้าจอ LG Display, กล้องบันทึกภาพ LG Innotek, ระบบส่งกำลัง LG Magna รวมไปถึงระบบแบตเตอรี่ LG Energy Solution, SK และ Samsung SDI ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้นำในตลาด
สำหรับบริษัท ซัมซุง (Samsung) มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยเช่นเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้มีการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไปยังต่างประเทศจำนวนมากนำโดยบริษัท Samsung Electrinics ซึ่งผลิตชิ้นส่วนให้กับบริษัทรถยนต์ระดับโลก เช่น บริษัท ออดี้ (Audi), บริษัท โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และชิ้นส่วนห้องคนขับของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ตั้งแต่ในช่วง 2021
การจับมือร่วมกันเป็นพันธมิตรพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการแข่งขันด้านเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเร่งให้บริษัทต่าง ๆ ปรับตัวตามเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ ๆ นอกจากนี้ในปี 2022 ที่ผ่านมายังพบว่าประเทศเกาหลีใต้มีการตื่นตัวเรื่องเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสูงและถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ดีที่สุดในโลกสะท้อนความน่าสนใจของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี
ที่มาของข้อมูล Koreatimes
ที่มาของรูปภาพ Hyundai Motor Group