เกาหลีเหนือ จ่อทดสอบ "ขีปนาวุธข้ามทวีป" รุ่นใหม่ใหญ่กว่าเดิม
วันนี้(11 มี.ค.65) เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบ 2 ครั้งล่าสุดในวันที่ 26 กุมภาพันธ์และ 4 มีนาคมที่ผ่านมานั้น เป็นขีปนาวุธแบบทิ้งตัวข้ามทวีป หรือ ICBM รุ่นใหม่ นับเป็นการเพิ่มความตึงเครียดอย่างร้ายแรงในปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือ และต้องการการตอบโต้จากประชาคมโลก
การยิงทดสอบขีปนาวุธ 2 ครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นครั้งที่ 8 และครั้งที่ 9 ในปีนี้ เป็นการยิงขีปนาวุธครั้งละ 1 ลูก ที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ โดยสหรัฐฯ ระบุว่า มีขนาดใหญ่กว่าขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นก่อนหน้า ที่เกาหลีเหนือเคยเปิดตัวไปในปี 2017 ที่ได้รับการประเมินว่า สามารถยิงไปได้ไกลถึงสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ทางเกาหลีเหนือระบุว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธวันที่ 4 มีนาคมและ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น เป็นเพียงการทดสอบกล้องที่จะติดตั้งลงบนดาวเทียมจารกรรมในอนาคตเท่านั้น ทั้งนี้ มติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ห้ามเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธระยะไกลอย่างเช่นขีปนาวุธข้ามทวีป
การเปิดเผยล่าสุดของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากในวันเดียวกันนั้น คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เพิ่งประกาศเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ว่า เกาหลีเหนือจะเป็น “มหาอำนาจด้านอวกาศ” โดยเขาสั่งขยายขนาดพื้นที่ฐานยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป พร้อมประกาศด้วยว่า เกาหลีเหนือจะยิงดาวเทียมจารกรรมหลายดวงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ เพื่อเก็บข้อมูลตามเวลาจริงเกี่ยวกับความเคลี่อนไหวทางทหารของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร
เจ้าหน้าที่อาวุโสรัฐบาลสหรัฐฯคนเดิม เตือนด้วยว่า เกาหลีเหนือจะยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่แบบเต็มรูปแบบในเร็วๆนี้ แต่อาจจะอ้างว่าเป็นการยิงดาวเทียม ทำให้ขณะนี้ทางกองกำลังป้องกันและสอดแนมขีปนาวุธของสหรัฐฯ ที่ประจำอยู่ในภูมิภาคแปซิฟิก เพิ่มระดับการเตรียมความพร้อม รับมือเกาหลีเหนือจะยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่แบบเต็มรูปแบบ และรัฐบาลสหรัฐฯ จะประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อขัดขวางเกาหลีเหนือในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่สำคัญในโครงการพัฒนาอาวุธได้ยากมากขึ้นอีก
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลล่าสุดดังกล่าวต่อสาธารณะ และต่อประเทศต่าง ๆ ที่เป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรของสหรัฐฯ และเรียกร้องให้ประชาคมโลกจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันโดยพร้อมเพรียง ต่อต้านเกาหลีเหนือไม่ให้พัฒนาขีปนาวุธเช่นนี้ได้อีกต่อไป
แฟ้มภาพ รอยเตอร์