ผู้ประท้วงเมียนมาจุดแฟลชม็อบต้านรัฐประหาร เจอฝ่ายความมั่นคงขับรถพุ่งชน
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การชุมนุมประท้วงและต่อต้านระบอบการปกครองของทหารยังคงเกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ของประเทศเมียนมา ทั้งที่ย่างกุ้ง ซึ่งยังคงมีแฟลชม็อบต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 การชุมนุมของครู นักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านการศึกษาในระบบภายใต้การปกครองของทหาร ที่เมืองซาลินจี ในเขตสกาย โดยเหตุรุนแรงเกิดขึ้นที่โมนยวา เขตสกายในวันเดียวกันนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้รถยนต์เป็นเครื่องมือพุ่งเข้าชนขบวนผู้ประท้วง ก่อนลากตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 5 คนขึ้นรถหลบหนีไป
ที่เมืองมัณฑะเลย์ในเขตมัณฑะเลย์ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นครู นักเรียนและพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งต้องการแสดงออกถึงการปฏิเสธอำนาจรัฐ ทั้งนี้ในหลายเมืองในมัณฑะเลย์ ทางกองทัพยังเดินหน้าส่งรถตักและกองทหารเข้ารื้อทำลายแนวกระสอบทรายและอุปสรรคอื่นๆ ที่ประชาชนทำไว้ตามถนนสายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีรายงานว่ามีการชุมนุมเดินขบวนประท้วงที่ ลอยก่อ ในรัฐคะยา, ทวาย ในเขตตะนาวศรี แม้แต่ที่ผากั้น ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งถูกกวาดล้างอย่างหนักเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ยังมีชาวบ้าน นักเรียน ครูอีกเป็นจำนวนมากออกมาเดินขบวนประท้วง
ทั้งนี้เหตุรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดขึ้นที่เมือง แวะและ ในเขตสกาย ที่เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริงเข้าสลายการชุมนุม มีผู้ประท้วงอย่างน้อย 3 รายถูกกระสุนเสียชีวิต ทำให้ยอดเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 8 ราย
ทางด้านสมาคมเพื่อการช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) ระบุว่า ยอดรวมของผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐสังหารหลังการยึดอำนาจเพิ่มขึ้นเป็น 765 รายแล้ว