สุชัชวีร์ ชูพรรคไทยก้าวใหม่ รีเซ็ตประเทศไทย เลิกทน เลิกจน สู้ศึกเลือกตั้ง 2569

การเลือกตั้งทั่วไปปี 2569 เปิดพื้นที่ให้พรรคการเมืองหน้าใหม่เสนอแนวคิดแตกต่าง หนึ่งในนั้นคือ พรรคไทยก้าวใหม่ ภายใต้การนำของ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศชัดว่าประเทศไทยต้อง “รีเซ็ต” จากวงจรการเมืองแบบเดิม ด้วยความรู้ หลักวิชาการ และความร่วมมือของทุกภาคส่วน

ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับ TNN สุชัชวีร์ ระบุว่า การตัดสินใจก้าวจากบทบาทนักวิชาการและวิศวกร สู่การนำพรรคการเมือง เกิดจากความกังวลต่อทิศทางประเทศที่เผชิญปัญหาเดิมซ้ำซาก ทั้งเศรษฐกิจ การศึกษา ความสามารถในการแข่งขัน และการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งไม่สามารถแก้ได้ด้วยวิธีคิดแบบเดิมอีกต่อไป

พรรคไทยก้าวใหม่เริ่มเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 33 คน และตั้งเป้าส่งครบ 300 คนทั่วประเทศ โดยเน้นการคัดเลือกบุคคลที่มีผลงานจริงในวิชาชีพ ทั้งนักวิชาการระดับนานาชาติ วิศวกร นักการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และนักต่อสู้ภาคประชาชนจากพื้นที่ต่างจังหวัด แนวคิดสำคัญคือการนำคนที่ประสบความสำเร็จในงานของตนเอง มาร่วมกันทำงานการเมืองอย่างจริงจัง

แคมเปญหลักของพรรคคือ “เลิกทน เลิกจน” สุชัชวีร์ มองว่าคนไทยไม่ควรถูกบังคับให้ทนกับการเมืองที่เริ่มต้นด้วยความขัดแย้ง และจบลงด้วยความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะเดียวกัน ความยากจนที่ถ่ายทอดข้ามรุ่นไม่ควรถูกทำให้เป็นเรื่องปกติ จากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนจำนวนมากมีรายได้เพียงหลักพันบาทต่อเดือน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความขยัน แต่เกิดจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่ไม่เปิดโอกาสและความเหลื่อมล้ำที่ฝังรากลึก

หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ ย้ำว่าพรรคยึดการเมืองสร้างสรรค์และพร้อมทำงานร่วมกับทุกฝ่าย หากตั้งอยู่บนหลักวิชาการ ความโปร่งใส และไม่สนับสนุนกลุ่มผลประโยชน์สีเทาหรือสีดำ ท่ามกลางวิกฤตรอบด้านของประเทศ ทั้งการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ การศึกษา และภัยพิบัติ ความร่วมมือจึงเป็นทางออกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผลักดันนโยบายได้ พรรคก็พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น

ด้านนโยบายการศึกษา สุชัชวีร์ ระบุว่าเป็นรากฐานของการรีเซ็ตประเทศไทย การดูแลต้องเริ่มตั้งแต่ในครรภ์ มารดาควรได้รับการดูแลด้านโภชนาการและสุขภาพตามมาตรฐานประเทศพัฒนาแล้ว เมื่อเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษา อาหารเช้า 5 หมู่เป็นสิ่งจำเป็น เพราะหากร่างกายไม่สมบูรณ์ การเรียนรู้ย่อมไม่เต็มศักยภาพ พรรคตั้งเป้าผลักดันการเรียนฟรีอย่างแท้จริง พร้อมยกระดับการเรียนภาษาอังกฤษ เทคโนโลยี และ AI ให้เทียบสากล

นอกจากนี้ พรรคไทยก้าวใหม่ เสนอแนวคิดยกระดับทักษะแรงงานทั้งระบบ เปิดให้ประชาชนรู้ล่วงหน้าว่าสาขาใดเป็นที่ต้องการ ภาคเอกชนรับแรงงานจำนวนเท่าใด และรายได้อยู่ในระดับใด ไม่จำกัดเฉพาะนักเรียนในระบบ แต่ครอบคลุมแรงงานกว่า 20 ล้านคนที่ต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ผ่านระบบเครดิตการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสในการทำงาน

สุชัชวีร์ สรุปว่า การรีเซ็ตประเทศไทยไม่อาจทำได้ด้วยคนคนเดียว แต่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของทั้งสังคม พรรคไทยก้าวใหม่จึงขอเป็นทางเลือกใหม่ในการเมือง ที่นำความรู้ เหตุผล และการลงมือทำจริง กลับมาเป็นศูนย์กลางอีกครั้ง