SAMARTกลับมาอู้ฟู่ ชูเก็บภาษีเบียร์เพียบ
บิ๊กSAMART ยอมรับ นำ SAV เข้าตลาดเป็นจุดเปลี่ยนดัน SAMARTฐานะการเงินดีขึ้น มูลค่าเพิ่ม พร้อมต่อยอด SAV มากกว่าวิทยุการบิน ชูปีนี้โดดเด่น หลังท่องเที่ยว กิจกรรมทางเศรษฐกิจทำเก็บภาษีเบียร์เพิ่ม เดินหน้าเสนอโครงการเทคโนโลยีภาครัฐให้บริการประชาชน หลังตั้งรัฐบาล
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า การที่บริษัทนำ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ประกาศเริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือ ไฟลิ่ง แล้ว จะส่งผลให้ SAMART ได้รับประโยชน์จากการที่จะปลดล็อกมูลค่าที่แท้จริงของ SAMART ปัจจุบัน SAMART มีมาร์เก็ตแคปราว 6 พันล้านบาท ขณะที่ SAV ซึ่งจะจากข่าวในการนำเข้าตลาดนั้นนักวิเคราะห์ได้ประเมินว่าจะมีมูลค่าที่สูงนับหมื่นล้านบาท นั้นหมายความว่า SAMART จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นพอสมควร
ขณะเดียวการที่ SAMART ได้นำหุ้นจำนวนหนึ่งมาขายพร้อมกับ ไอพีโอ นั้นจะทำให้บริษัทได้รับเม็ดเงินเข้ามา และนำไปชำระหนี้ซึ่ง SAMART เอง ก็จะมีฐานะการเงินที่ดีขึ้นและสามารถประหยัดดอกเบี้ยได้เป็น 100ล้านบาท
@ SAV ขยายธุรกิจ
นอกจากนี้ SAMART ก็จะได้รับประโยชน์จากการขยายธุรกิจของ SAV ที่จะไม่ได้หยุดอยู่แค่วิทยุการบินเท่านั้น แต่ยังคงมองหาธุรกิจต่อเนื่องหลังจากเข้าตลาด ส่วนแนวโน้มผลงานของ SAV ปีนี้จะเติบโตมากกว่าปีก่อนค่อนข้างมากจากปริมาณจราจรที่กลับมาดีหลังโควิด และยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น
@รับภาษีเบียร์อื้อ
ด้านแนวโน้มผลประกอบการของ SAMART เป็นไปในในทิศทางที่ดี โดยไตรมาส 2/2566จะเติบโตมากกว่าไตรมาส 1/2566ตามการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
ซึ่ง SAMART มีธุรกิจยิงเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี ชนิดรหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ (Direct Coding) สำหรับภาษีสรรพสามิตเบียร์ ซึ่งก็สามารถจัดเก็บได้ค่อนข้างดี มีการเติบโตที่เป็นไปตามเป้า
ในส่วนของนโยบายการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนการผลักดันสุราเสรีในอนาคต ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับบริษัท ในโอกาสการที่จะขยายไลน์ธุรกิจไปจัดเกบภาษีสรรพสามิตอื่นๆ ต่อไป ซึ่ง Direct Coding เป็นการจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพ
@เดินหน้าเสนอโครงการรัฐ
นอกจากนี้บริษัทยังจะได้รับประโยชน์ จากการจัดตั้งรัฐบาลที่ใกล้เข้ามาแล้ว จะส่งผลดีต่อโครงการต่างๆ ที่มีโอกาสในการเดินหน้า โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเดินหน้ามาทางนี้
ขณะเดียวกันยังจะมีงานโครงการประมูลที่อยู่ในแผนที่จะมีการประมูลออกมา ซึ่งทางกลุ่ม SAMART โดย SAMTEL พร้อมที่จะเข้าไปร่วมประมูล ทั้งธุรกิจใหม่ งานดิจิทัล
ส่วนการที่จะมีการตั้งธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติม โดยเฉพาะ Virtual Bank หรือเวอร์ชวลแบงก์ ทาง SAMART ไม่มีนโยบายที่จะเข้าไปตั้งแบงก์ แต่จะส่งผลดีในด้านการสนับสนุนระบบไอทีต่างๆ ซึ่งจะต้องใช้บริการค่อนข้างมาก
@เป้า 7-8 บาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเอา SAV เข้าตลาดส่งผลบวกต่อ SAMART ใน 3 มิติ ประกอบด้วย การเพิ่มมูลค่าให้กับ SAMART โดยประเมินมูลค่าตลาดของ SAV จะอยู่ที่หมื่นล้านบาท ตีกลับเป็นมูลค่าที่ SAMART ถือจะได้ราว 7-8 บาท ถ้ารวมกับ NAV จากการถือหุ้นอื่นเช่น SAMTEL ก็ควรจะมีมูลค่า 10 บาทขึ้นไป
นอกจากนี้จากการที่ SAMART มีการนำหุ้นส่วนหนึ่งมาขายพร้อมกับ IPO ทำให้มีกำไรพิเศษเกิดขึ้น และมีเงินสดไหลกลับสู่ SAMART นำไปคืนหนี้ ทำให้ฐานะการเงินดีขึ้น ขณะเดียวกันผู้ถือหุ้น SAMART จะได้สิทธิจองซื้อหุ้น หากประเมินราคาคร่าวๆ ด้วยการที่มูลค่าของ SAMART ที่จะอยู่ราว 10-11 บาท ให้ส่วนลด 20% จะได้ราคา 7-8 บาท