ดาวโจนส์-แนสแดกปิดบวกติดต่อกัน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

• ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 40,752.96 จุด เพิ่มขึ้น 83.60 จุด (+0.21%)
• S&P500 ปิดที่ 5,604.14 จุด เพิ่มขึ้น 35.08 จุด (+0.63%)
• Nasdaq ปิดที่ 17,710.74 จุด เพิ่มขึ้น 264.40 จุด (+1.52%)

กลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาด

หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและบริการสื่อสารโดดเด่นที่สุดในวันดังกล่าว โดยมีปัจจัยบวกจากผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง:

• Microsoft พุ่งขึ้น 7.6% จากกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาด โดยเฉพาะธุรกิจคลาวด์ “Azure” ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้บริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในไตรมาสถัดไป และทำให้ Market Cap แซงหน้า Apple ชั่วคราว
• Meta Platforms เพิ่มขึ้น 4.2% จากรายได้และกำไรไตรมาสแรกที่ดีกว่าคาด พร้อมแผนลงทุนด้าน AI ผ่านการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่

หุ้นเทคโนโลยีอื่นได้รับแรงส่ง

บริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นในกลุ่มเทคโนโลยีก็ได้รับแรงหนุนจากบรรยากาศเชิงบวกเช่นกัน:

• Nvidia เพิ่มขึ้น 2.47%
• Alphabet (Google) เพิ่มขึ้น 1.2%
• Amazon พุ่งขึ้น 3.1%
• Apple แม้มีปัญหาด้านกฎหมายจากคำสั่งศาลเกี่ยวกับ App Store แต่ยังปิดบวกเล็กน้อยที่ 0.4%

หุ้นบางกลุ่มยังเป็นแรงกดดัน

แม้ตลาดโดยรวมจะเป็นบวก แต่บางหุ้นยังคงสร้างแรงกดดันต่อดัชนี:

• McDonald's ลดลง 1.9% จากยอดขายทั่วโลกลดลง
• Qualcomm ดิ่งลง 8.9% จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า

จับตาผลประกอบการและตัวเลขจ้างงาน

นักลงทุนยังเฝ้ารอดูผลประกอบการจากบริษัทใหญ่ที่ยังไม่ประกาศ ได้แก่ Amazon และ Apple รวมถึง:

• ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนเมษายน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่ง (ลดลงจาก 228,000 ในเดือนก่อนหน้า)
• อัตราว่างงาน คาดว่าจะทรงตัวที่ 4.2%