รีเซต

เฮอริเคนยักษ์ “เมลิสซา” จ่อถล่ม “จาเมกา” คาดเกิดหายนะใหญ่ นับเป็นเฮอริเคนแรงที่สุดของปี 68!

เฮอริเคนยักษ์ “เมลิสซา”  จ่อถล่ม “จาเมกา” คาดเกิดหายนะใหญ่ นับเป็นเฮอริเคนแรงที่สุดของปี 68!
TNN ช่อง16
28 ตุลาคม 2568 ( 09:00 )
15

 “เฮอริเคนเมลิสซา” ทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และกำลังมุ่งหน้าขึ้นเหนือ เตรียมพัดเข้าถล่ม “จาเมกา” โดยตรงในวันอังคารนี้ (28 ต.ค.) คาดว่าจะสร้างความเสียหายรุนแรงระดับมหันตภัยและอาจคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก


นักอุตุนิยมวิทยาของ AccuWeather เตือนว่า เฮอริเคนเมลิสซาจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะจาเมกา ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ดินถล่ม และลมแรงระดับทำลายล้างทั่วประเทศ โดยเมื่อบ่ายวันจันทร์ (27 ต.ค.) พบว่า ความเร็วลมสูงสุดบริเวณกำแพงตาพายุ (eyewall) ของเมลิสซาเพิ่มขึ้นถึง 175 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 280 กม./ชม.) กลายเป็นพายุเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดของปี 2568 ในมหาสมุทรแอตแลนติก และอาจเป็นพายุที่มีความกดอากาศศูนย์กลางต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปีสำหรับช่วงปลายฤดูกาลพายุ

ด้านหัวหน้านักอุตุนิยมวิทยาของ Accuweather เตือนว่า ใครที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหรือไม่อพยพออกมานั้น กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง เพราะพายุลูกนี้มีกำลังแรงมาก และหลังจากพายุเคลื่อนผ่านไปแล้ว จาเมกาก็อาจต้องเผชิญวิกฤตด้านมนุษยธรรมขั้นรุนแรง ระบบไฟฟ้าอาจเสียหายหนักหลายเดือน และอาจขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาด และระบบทำความเย็นสำหรับการเก็บอาหาร คาดว่าพายุจะขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันตกถึงตอนกลางของจาเมกาในช่วงเที่ยงวันอังคาร 

อย่างไรก็ตาม ชาวจาเมกาไม่ได้เผชิญกับพายุเฮอริเคนรุนแรงขนาดนี้มานานเกือบ 40 ปีแล้ว นับตั้งแต่พายุเฮอริเคนกิลเบิร์ต (Gilbert) ในปี 2531 ซึ่งเป็นเพียงพายุระดับ 3 และเคลื่อนที่เร็วกว่าพายุเมลิสซามาก คราวนี้ผลกระทบจะกินเวลานานหลายชั่วโมง


นักอุตุนิยมวิทยาเปรียบเทียบว่า ความรุนแรงของเมลิสซาอาจใกล้เคียงกับ “พายุเฮอริเคนดอเรียน” ที่ถล่มบาฮามาสในปี 2562 และ “พายุแอนดรูว์” ที่สร้างหายนะในรัฐฟลอริดา ปี 2535 ซึ่งทั้งคู่เป็นพายุเฮอริเคนระดับ 5 เช่นกัน ซึ่งคาดว่าความรุนแรงของเมลิสซาจะทำให้ต้นไม้ บ้านเรือน และอาคารที่ไม่ได้สร้างอย่างแข็งแรงพังราบเป็นหน้ากลอง

นอกจากนี้ จาเมกายังมีภูเขาสูงชันหลายแห่ง ซึ่งจะเพิ่มปริมาณฝนตกหนักมากขึ้นอีก คาดว่าฝนจะตกเฉลี่ย 60-90 เซนติเมตร ทั่วประเทศ โดยบางพื้นที่อาจสูงสุดถึง กว่า 125 เซนติเมตร (ราว 50 นิ้ว) ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มครั้งใหญ่ ถนนและสะพานอาจถูกน้ำพัดขาด ชุมชนจำนวนมากอาจถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ชายฝั่งตอนใต้ของจาเมกามีทั้งอ่าวน้ำตื้นและหน้าผาสูง ทำให้ระดับน้ำทะเลหนุนมีความซับซ้อน และยังมีการคาดการณ์ว่า จะเกิด คลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) สูง 10-15 ฟุต (3-4.5 เมตร) โดยเฉพาะบริเวณอ่าวทางตอนใต้ตอนกลางของเกาะ


นายอเล็กซ์ ดาซิลวา หัวหน้านักพายุของ AccuWeather อธิบายว่า “ทะเลแคริบเบียนปีนี้แทบไม่มีพายุเกิดขึ้นเลย ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลร้อนจัดทั้งที่ผิวน้ำและชั้นลึก จึงเป็นเชื้อเพลิงสมบูรณ์แบบให้เมลิสซาเติบโตอย่างรวดเร็ว” และหลังพัดถล่มจาเมกาแล้ว พายุเมลิสซายังคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ คิวบาตอนกลางและตะวันออก ฮิสปันโยลา บาฮามาส ในช่วงกลางสัปดาห์ และอาจเคลื่อนต่อไปถึง เบอร์มิวดา แอตแลนติกตอนเหนือ และบางส่วนของยุโรปตะวันตก ภายในสัปดาห์หน้า

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง