รีเซต

AMA ชิงแชร์ขนน้ำมันเอเชีย พุ่งเป้าขึ้นแท่นเบอร์1

AMA ชิงแชร์ขนน้ำมันเอเชีย พุ่งเป้าขึ้นแท่นเบอร์1
ทันหุ้น
4 มกราคม 2567 ( 22:14 )
63

#AMA #ทันหุ้น – AMA ใส่เกียร์ชิงมาร์เก็ตแชร์ขนส่งน้ำมันปาล์มเอเชีย หวังขึ้นแท่นเบอร์ 1  ด้านพ่อทัพใหญ่ “พิศาล รัชกิจประการ” โชว์กองเรือน้ำหนักบรรทุกรวม 9.6 หมื่นเดตเวตตัน เพิ่มขึ้น 10% หลังซื้อเรือใหม่ ลั่นรถยนต์อีวีไม่กระทบ ปริมาณการใช้น้ำมันบนถนน

 

นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า น้ำหนักบรรทุกขนส่งทางเรือปัจจุบันรวมแล้วอยู่ที่ 9.6 หมื่นเดตเวตตัน โดยมีเรือให้บริการทั้งหมด 9 ลำ หลังบริษัทซื้อเรือใหม่ในเดือนธันวาคม 2566 ขนาด 1.3 หมื่นเดตเวตตันเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี ทั้งนี้น้ำหนักการขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 8.6 หมื่นเดตเวตตัน หรือเพิ่มขึ้น 10%

 

** วอลุ่มขนส่งโต

ขณะที่การขนส่งทางเรือ อาจต้องติดตามราคาขนส่งหรือค่าระวางเรือ เพราะเป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนรายได้ของเรือเป็นหลัก และบริษัทมั่นใจความสามารถการขนส่งทางเรือจะเติบโตสูงกว่าปี 2567 แน่นอนตามน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น และคาด Utilization จะไม่ต่ำกว่าเดิมที่ 97% โดยบริษัทเคยทำได้สูงสุดถึง 98% ซึ่งเชื่อว่าในปี 2567 ผลประกอบการขนส่งทางเรือจะดีกว่าปี 2566

 

สำหรับทิศทางดีมานด์น้ำมันปาล์มในเอเชียยังมีปริมาณเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 10 ล้านตัน และบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) การขนส่งน้ำมันอยู่ในอันดับ 3 หรืออยู่ที่ประมาณ 14-15% และบริษัทมีแผนจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้น โดยหวังจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 แต่อาจต้องใช้เวลาพอสมควร

 

ขณะเดียวกันการขนส่งทางบก ภายใต้บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจิสติกส์ จำกัด (AMAL) ให้บริการขนส่งสินค้าเหลว ประเภท น้ำมันเชื้อเพลิง ไบโอดีเซล และน้ำมันพืช ช่วงเดือนตุลาคม 2566 บริษัทเพิ่มรถเซมิเทเลอร์ไปแล้ว 30 คัน และรถสิบล้อ 10 คัน และรับรู้รายได้จากการให้บริการรถใหม่ในไตรมาส 4/2566 ส่งผลให้รถบริการเพิ่มขึ้นเป็น 304 คัน โดยมีฟีดรถเพิ่มขึ้น 13-15% ส่วนรายได้ขนส่งทางรถบริษัทมองว่ามีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจากปี 2566

 

** อีวีไม่กระทบ

นายพิศาล กล่าวต่อว่า สำหรับขนส่งน้ำมันทางรถ ปัจจุบันรถยนต์ EV เริ่มใช้รถบนถนนมากขึ้น แต่บริษัทไม่กังวล เนื่องจากลูกค้าหลักคือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG และบริษัทขนส่งดีเซล เป็นหลัก 80% ส่วนรถยนต์ EV  ปัจจุบันเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แต่รถยนต์พาณิชย์ ยังคงใช้น้ำมัน ดังนั้นระยะสั้นมองว่าไม่กระทบต่อการขนส่งน้ำมันโดยรถบรรทุก

 

ส่วนบริษัทในเครืออย่าง บริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด หรือ TSSK ซึ่งดำเนินธุรกิจขนส่งเม็ดพลาสติก คาดว่าจะไม่มีการเพิ่มขึ้นรถอย่างมีนัยสำคัญ แต่จะเปลี่ยนรถเก่าเป็นรถใหม่ เพราะผลประกอบการที่ผ่านมายังไม่โดดเด่น และบริษัท ออโต้ โลจิส จำกัด หรือ AUTO ซึ่งให้บริการขนส่งรถยนต์ ปี 2566 การผลิตรถยนต์ปรับตัวลดลง ทำให้การขนส่งยังไม่ดีมากนัก ปัจจุบันเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อยู่ในกระแส คาดบริษัทจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพื่อขนส่งรถ EV ได้บ้าง

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง