AMA ชิงแชร์ขนน้ำมันเอเชีย พุ่งเป้าขึ้นแท่นเบอร์1

#AMA #ทันหุ้น – AMA ใส่เกียร์ชิงมาร์เก็ตแชร์ขนส่งน้ำมันปาล์มเอเชีย หวังขึ้นแท่นเบอร์ 1 ด้านพ่อทัพใหญ่ “พิศาล รัชกิจประการ” โชว์กองเรือน้ำหนักบรรทุกรวม 9.6 หมื่นเดตเวตตัน เพิ่มขึ้น 10% หลังซื้อเรือใหม่ ลั่นรถยนต์อีวีไม่กระทบ ปริมาณการใช้น้ำมันบนถนน
นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า น้ำหนักบรรทุกขนส่งทางเรือปัจจุบันรวมแล้วอยู่ที่ 9.6 หมื่นเดตเวตตัน โดยมีเรือให้บริการทั้งหมด 9 ลำ หลังบริษัทซื้อเรือใหม่ในเดือนธันวาคม 2566 ขนาด 1.3 หมื่นเดตเวตตันเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี ทั้งนี้น้ำหนักการขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 8.6 หมื่นเดตเวตตัน หรือเพิ่มขึ้น 10%
** วอลุ่มขนส่งโต
ขณะที่การขนส่งทางเรือ อาจต้องติดตามราคาขนส่งหรือค่าระวางเรือ เพราะเป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนรายได้ของเรือเป็นหลัก และบริษัทมั่นใจความสามารถการขนส่งทางเรือจะเติบโตสูงกว่าปี 2567 แน่นอนตามน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น และคาด Utilization จะไม่ต่ำกว่าเดิมที่ 97% โดยบริษัทเคยทำได้สูงสุดถึง 98% ซึ่งเชื่อว่าในปี 2567 ผลประกอบการขนส่งทางเรือจะดีกว่าปี 2566
สำหรับทิศทางดีมานด์น้ำมันปาล์มในเอเชียยังมีปริมาณเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 10 ล้านตัน และบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) การขนส่งน้ำมันอยู่ในอันดับ 3 หรืออยู่ที่ประมาณ 14-15% และบริษัทมีแผนจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้น โดยหวังจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 แต่อาจต้องใช้เวลาพอสมควร
ขณะเดียวกันการขนส่งทางบก ภายใต้บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจิสติกส์ จำกัด (AMAL) ให้บริการขนส่งสินค้าเหลว ประเภท น้ำมันเชื้อเพลิง ไบโอดีเซล และน้ำมันพืช ช่วงเดือนตุลาคม 2566 บริษัทเพิ่มรถเซมิเทเลอร์ไปแล้ว 30 คัน และรถสิบล้อ 10 คัน และรับรู้รายได้จากการให้บริการรถใหม่ในไตรมาส 4/2566 ส่งผลให้รถบริการเพิ่มขึ้นเป็น 304 คัน โดยมีฟีดรถเพิ่มขึ้น 13-15% ส่วนรายได้ขนส่งทางรถบริษัทมองว่ามีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจากปี 2566
** อีวีไม่กระทบ
นายพิศาล กล่าวต่อว่า สำหรับขนส่งน้ำมันทางรถ ปัจจุบันรถยนต์ EV เริ่มใช้รถบนถนนมากขึ้น แต่บริษัทไม่กังวล เนื่องจากลูกค้าหลักคือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG และบริษัทขนส่งดีเซล เป็นหลัก 80% ส่วนรถยนต์ EV ปัจจุบันเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แต่รถยนต์พาณิชย์ ยังคงใช้น้ำมัน ดังนั้นระยะสั้นมองว่าไม่กระทบต่อการขนส่งน้ำมันโดยรถบรรทุก
ส่วนบริษัทในเครืออย่าง บริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด หรือ TSSK ซึ่งดำเนินธุรกิจขนส่งเม็ดพลาสติก คาดว่าจะไม่มีการเพิ่มขึ้นรถอย่างมีนัยสำคัญ แต่จะเปลี่ยนรถเก่าเป็นรถใหม่ เพราะผลประกอบการที่ผ่านมายังไม่โดดเด่น และบริษัท ออโต้ โลจิส จำกัด หรือ AUTO ซึ่งให้บริการขนส่งรถยนต์ ปี 2566 การผลิตรถยนต์ปรับตัวลดลง ทำให้การขนส่งยังไม่ดีมากนัก ปัจจุบันเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อยู่ในกระแส คาดบริษัทจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพื่อขนส่งรถ EV ได้บ้าง