ผลสำรวจล่าสุดเผยกาซาผ่าน "วิกฤตความอดอยาก" แล้วหลังความช่วยเหลือถึงมือคนมากขึ้น

หน่วยงานติดตามภาวะความหิวโหยระดับโลก เปิดเผยเมื่อวานนี้ (19 ธันวาคม) ว่า ขณะนี้ ฉนวนกาซาไม่ได้อยู่ในภาวะทุพภิกขภัย หรือความอดอยากแล้ว หลังจากการเข้าถึงการส่งมอบอาหารเพื่อมนุษยธรรมและเชิงพาณิชย์ดีขึ้น ภายหลังข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ในสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์
การประเมินล่าสุดของโครงการจัดระดับความมั่นคงด้านอาหารแบบบูรณาการ (Integrated Food Security Phase Classification) หรือไอพีซี (IPC) มีขึ้นสี่เดือนหลังจากที่รายงานว่า มีประชาชน 514,000 คน หรือเกือบหนึ่งในสี่ของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา กำลังเผชิญภาวะทุพภิกขภัย อย่างไรก็ตาม ไอพีซีเตือนเมื่อวานนี้ว่าสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต
ไอพีซีระบุในรายงานว่า “ภายใต้สถานการณ์เลวร้ายที่สุด ซึ่งรวมถึงการกลับมาของการสู้รบและการหยุดชะงักของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการค้าครั้งใหม่ ฉนวนกาซาทั้งหมดจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดทุพภิกขภัยจนถึงกลางเดือนเมษายน 2569 สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่รุนแรงและต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ อิสราเอลควบคุมช่องทางเข้าออกทั้งหมดของฉนวนกาซา โดยซีโอจีเอที (COGAT) ซึ่งเป็นหน่วยงานทหารอิสราเอลที่ประสานงานด้านความช่วยเหลือ ได้โต้แย้งตั้งแต่เดือนสิงหาคมว่าไม่เคยมีภาวะทุพภิกขภัยในกาซา ซีโอจีเอทีระบุว่า ตั้งแต่เริ่มการหยุดยิงในเดือนตุลาคม มีรถบรรทุกความช่วยเหลือเข้าไปในกาซาวันละ 600–800 คัน และอาหารคิดเป็นราวร้อยละ 70 ของสิ่งของทั้งหมด
ซีโอจีเอที ปฏิเสธข้อสรุปของรายงานไอพีซี โดยระบุว่า รายงานดังกล่าวอาศัยช่องว่างอย่างรุนแรงในการเก็บรวบรวมข้อมูล และแหล่งข้อมูลที่ไม่สะท้อนขอบเขตความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างครบถ้วน จึงทำให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าใจผิด สนับสนุนข้อมูลบิดเบือน และนำเสนอภาพสถานการณ์ในพื้นที่ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง”
กระทรวงต่างประเทศอิสราเอล ระบุว่า มีความช่วยเหลือหลั่งไหลเข้าสู่กาซามากกว่าที่รายงานระบุ และราคาสินค้าอาหารในกาซาลดลงอย่างมากตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
ด้านกลุ่มฮามาสโต้แย้งตัวเลขความช่วยเหลือของอิสราเอล โดยระบุว่ามีรถบรรทุกเข้าสู่กาซาน้อยกว่า 600 คันต่อวัน ขณะที่หน่วยงานด้านมนุษยธรรมระบุมาโดยตลอดว่ายังต้องการความช่วยเหลือมากกว่านี้ในพื้นที่ขนาดเล็กและแออัดแห่งนี้ และกล่าวว่าอิสราเอลขัดขวางการนำเข้าสิ่งของจำเป็น ซึ่งอิสราเอลปฏิเสธ
ไอพีซี ระบุว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา มีการยืนยันการเกิดภาวะทุพภิกขภัยแล้ว 5 ครั้ง ได้แก่ โซมาเลียในปี 2554, ซูดานใต้ในปี 2560 และ 2563, ซูดานในปี 2567 และล่าสุดคือกาซาในเดือนสิงหาคม
การจะจัดให้พื้นที่ใดอยู่ในภาวะทุพภิกขภัย ต้องมีประชากรอย่างน้อยร้อยละ 20 เผชิญภาวะขาดแคลนอาหารขั้นรุนแรง เด็กหนึ่งในสามขาดสารอาหารเฉียบพลัน และมีผู้เสียชีวิตจากความอดอยากหรือโรคที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 คนต่อประชากร 10,000 คนต่อวัน
ไอพีซี ระบุว่า ปัจจุบันมีประชาชนมากกว่า 100,000 คนในกาซาที่เผชิญภาวะหายนะ แต่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงเหลือราว 1,900 คนภายในเดือนเมษายน 2569 โดยฉนวนกาซาทั้งหมดถูกจัดอยู่ในระดับ “ภาวะฉุกเฉิน” ซึ่งต่ำกว่าระดับหายนะหนึ่งขั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เด็กอายุ 6–59 เดือนเกือบ 101,000 คนทั่วฉนวนกาซา คาดว่าจะประสบภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลันและต้องได้รับการรักษา โดยมากกว่า 31,000 คนเป็นกรณีรุนแรง ในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรราว 37,000 คน จะเผชิญภาวะทุพโภชนาการเฉียบพลันและต้องได้รับการรักษาด้วยเช่นกัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
