ซ้อมรบใหญ่สุดนับแต่สงครามเย็น รัสเซีย-เบลารุส ทำเกมสงครามใกล้ยูเครน
--การระดมพลครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปี--
กลุ่มชาติพันธมิตรป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ชี้ว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างรัสเซียและเบลารุสครั้งนี้ ถือเป็นการระดมอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังประเทศอดีตสหภาพโซเวียตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น
คาดว่าจะมีทหารรัสเซียราว 30,000 นาย เข้าร่วมการซ้อมรบกับเบลารุส โดยโฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงการซ้อมรบครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่จริงจังอย่างมาก เนื่องจากว่าทั้งรัสเซียและเบลารุส "กำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน"
ขณะที่สหรัฐฯเรียกการซ้อมรบนี้ว่า "เป็นการทำให้สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก"
ส่วนรัสเซียยังคงเดินหน้าปฏิเสธ ว่าไม่มีแผนการในการบุกยูเครนแต่อย่างใด แม้จะมีการประจำพลมากกว่า 1 แสนนายบริเวณพรมแดนก็ตาม
แต่ประเทศตะวันตก รวมถึงสหรัฐฯ ยังคงเตือนเป็นระยะว่า รัสเซียก็ยังมีโอกาสที่จะบุกรุกได้ทุกเมื่อ
ขณะที่ความพยายามในการเจรจาทางการทูตเพื่อหวังยุติความขัดแย้งนี้ ยังคงเกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคยุโรปตลอดช่วงสัปดาห์นี้
--ทูตรัสเซียเชื่อ การทูตจะช่วยยับยั้งวิกฤตนี้ได้--
ด้านทูตรัสเซียประจำอียู วลาดิเมียร์ ชิชอฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่า รัสเซียเชื่อว่า "การทูต" จะสามารถช่วยลดความตึงเครียดจากวิกฤตในครั้งนี้ได้ และชี้ว่า การที่กองกำลังรัสเซียไปร่วมซ้อมรบที่เบลารุส จะเดินทางกลับฐานทัพอย่างถาวรในทันทีหลังจากที่ซ้อมรบแล้วเสร็จ
แย้งกับโฆษกทำเนียบขาว เจน พซากี ที่ชี้ว่า "เมื่อดูจากการซ้อมรบร่วมกันในครั้งนี้แล้ว สิ่งที่สหรัฐฯและพันธมิตรมองเห็น มีแต่การยกระดับความตึงเครียด .. หาใช่การลดความตึงเครียดอย่างที่รัสเซียกล่าวอ้างไม่"
--รัสเซียเผยภาพเรือรบล่องหน--
ขณะที่ล่าสุด สำนักข่าว RT (Russia Today) ได้เปิดเผยภาพการออกแบบดิจิทัล ของการสร้างเรือรบผิวน้ำ "ล่องหน" ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างเรือรบกับเรือดำน้ำ
โดยสำนักงานออกแบบกลางรูบิน สำหรับวิศวกรรมทางน้ำ แห่งนครเซนปีเตอร์สเบิร์ก ให้สัมภาษณ์กับ RIA Novosti ว่า เรือลำนี้มีฉายาว่า "Strazh" ซึ่งแปลว่า "ผู้พิทักษ์" โดยเรือลำนี้เป็นการ "ผสมกันระหว่างเรือผิวน้ำ และใต้น้ำ" ที่สามารถจับตาศัตรูด้วยเรดาร์ที่ทรงพลัง และสามารถเข้าถึงศัตรูได้โดยที่พวกเขาไม่ทันรู้ตัว
ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว สำนักรูบิน ได้เปิดเผยเรืออีกเวอร์ชั่นหนึ่งซึ่งมีขนาดเล็กกว่า และสามารถปฏิบัติการได้ทั้งผิวน้ำและใต้น้ำ แต่โมเดลใหม่นี้ มีความยาว 72 เมตร และสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็ว 21 น็อต
เรือ Strazh ลำนี้ มีการติดตั้งป้อมปืน, เครื่องยิงขีปนาวุธนำวิถี 2 ตัว, ท่อยิงตอร์ปิโด 4 ท่อ และโดรน 1 ลำ และสามารถบรรทุกเจ้าหน้าที่ได้ 42 คน ซึ่งโดยรวมแล้วมีขนาดใกล้เคียงเรือดำน้ำรุ่น Whiskey สมัยโซเวียต
สำนักรูบิน ระบุอีกว่า เรือรุ่นนี้จะเจาะตลาดต่างแดนในฐานะยามรักษาการณ์เขตแดนและนอกชายฝั่ง ทั้งย้ำว่าคุ้มค่ากับงบประมาณ แม้ว่าจะมีการลดงบระหว่างการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม แถมยังสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ซื้อต่างชาติได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าได้เริ่มต้นผลิตตัวต้นแบบแล้วหรือยัง หรือจะมีช่วงเวลาออกปฏิบัติการเมื่อใด
—————
แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล
ภาพ: Getty Images