สำหรับผู้ที่อยู่ในโลกการทำงาน แพลตฟอร์มลิงก์อิน (LinkedIn) ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญทั้งสำหรับการหางาน การทำงาน หรือการคัดคนเข้ามาร่วมทีม เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ผู้ใช้แสดงประวัติการศึกษาและการทำงานอย่างละเอียด แต่กลายเป็นว่าแพลตฟอร์มนี้กำลังกลายเป็นพื้นที่หาคู่ไปเสียแล้ว

ผู้ชายมองว่าแอปหาคู่ไม่ใช่คำตอบ ส่วน LinkedIn คือทางเลือกที่น่าสนใจ

สำนักข่าวบิสสิเนส อินไซเดอร์ อินเดีย (Business Insider India) ได้พูดคุยกับดัสติน คิดด์ (Dustin Kidd) ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา (Sociology) จากมหาวิทยาลัยเทมเพิล (Temple University) ในรัฐเพนซิลเวเนีย (Pennsylvania) ของสหรัฐอเมริกาที่ออกมากล่าวว่า LinkedIn กำลังกลายเป็นพื้นที่หาคู่นัดเดตสำคัญจากการสำรวจในปีที่ผ่านมาซึ่งพบว่าผู้ชายกว่าร้อยละ 64 ที่ใช้แอปหาคู่ รู้สึกว่าไม่มั่นใจในตัวเองเมื่อเทียบจากโปรไฟล์ในแพลตฟอร์มอย่างทินเดอร์ (Tinder) รวมไปถึงปัญหา “ไม่ตรงปก” ที่มักเกิดขึ้นเมื่อพบว่ารูปหน้าในโปรไฟล์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง

ตรงกันข้ามกับ LinkedIn ที่เป็นพื้นที่สำหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ ดังนั้น ความน่าเชื่อถือทั้งประวัติส่วนตัวและรูปต่าง ๆ จึงสูงกว่า เช่น การยืนยันตัวตน ข้อมูลเชิงลึกของประวัติการทำงาน และบุคคลที่เข้ามารับรองประวัติการทำงานในแพลตฟอร์มซึ่งตรวจสอบได้อย่างละเอียด ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่คนยุคใหม่อยากรับรู้ก่อนเลือกคู่เดตในปัจจุบัน

ผู้หญิงเสียงแตก LinkedIn อาจจะยังไม่ใช่ Tinder สาขา 2 ในตอนนี้

ในขณะที่มุมมองของผู้หญิงนั้นมีความแตกต่างออกไป แม้ว่าจะมีคนที่สนับสนุนการหาคู่เดตในพื้นที่ของ LinkedIn เช่น อินฟลูเอนเซอร์หญิงบนติ๊กตอก (TikTok) ชาวอังกฤษเคยออกมาเปิดเผยว่าตัวเองใช้ LinkedIn ในการหา “ผู้ชายเกรดเอ” (A-grade man) หรือผู้ชายที่มีโปรไฟล์การทำงานและการศึกษาดีในปีที่ผ่านมา เช่น แพทย์ นักกฎหมาย รวมไปถึงนักการเงินที่มีตำแหน่งสูง

แต่ทว่า จากการพูดคุยระหว่าง Business Insider India กับคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ (Content Creator) รายหนึ่งในเมืองออสติน รัฐเทกซัสในสหรัฐฯ กลับพบว่า เธอรู้สึกไม่พอใจกับการเข้าหาเชิงชู้สาวผ่าน LinkedIn เพราะรู้สึกว่าการใช้ LinkedIn ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานอย่างมืออาชีพมาเป็นการเข้าหาส่วนตัวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและรู้สึกถูกคุกคาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า LinkedIn ได้เปิดโอกาสให้คนในโลกการทำงานได้เห็นประวัติที่น่าประทับใจและนำไปสู่ความชอบพอได้เช่นกัน

ที่มาข้อมูล Business Insider India

ที่มารูปภาพ Pixabay