รีเซต

ปิดฉากกัญชาเสรี ผู้ประกอบการเชียงใหม่ระส่ำส่อปิดกิจการ 1 พันแห่ง

ปิดฉากกัญชาเสรี ผู้ประกอบการเชียงใหม่ระส่ำส่อปิดกิจการ 1 พันแห่ง
TNN ช่อง16
15 พฤษภาคม 2567 ( 09:45 )
56

จากกรณีเมื่อ  เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อลดเกณฑ์การครอบครองยาบ้าเหลือเพียง 1 เม็ดก็มีความผิด จากเดิมที่ 5 เม็ดถือเป็นไว้เพื่อเสพ 


พร้อมทั้งสั่งดึง กัญชา กลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง โดยอนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เท่านั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามและควบคุมปัญหายาเสพติด รวมถึงให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมมือกันทำงานหนักขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย


ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้ประกอบการร้านขายกัญชาในเชียงใหม่ที่เปิดมานานกว่า 2 ปี หลังปลดล็อคกัญชาเสรี ต้องอยู่ในภาวะระส่ำระสายหลังรัฐบาลเตรียมเสนอนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 และเน้นใช้ในทางการแพทย์ คาดเชียงใหม่ที่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยวหลักมีร้านกัญชาที่จดทะเบียนนับพันร้านต้องสูญเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท แถมคนตกงานทั้งระบบอีกเพียบทั้งลูกจ้าง เกษตรกรผู้ปลูกกัญชา ส่วนเจ้าของธุรกิจเตรียมพับเสื่อกลับบ้าน 


ทั้งนี้นายชิษณุพงศ์ เจ้าของธุรกิจร้านขายกัญชา ที่ตั้งอยู่บนถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 11 ย่านท่องเที่ยวชื่อดังใน อ.เมืองเชียงใหม่ เผยว่า ในจังหวัดเชียงใหม่มีร้านกัญชาเกือบ 1,000 ร้าน แต่ละร้านลงทุนหลักหมื่นถึงหลักล้านบาท สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 ก็คือลูกจ้างตกงานซึ่งบางร้านอาจมี 1- 2 คน ส่วนผู้ประกอบการแบบตนเองก็เตรียมตัวเจ๊งอย่างเดียว 

     

ส่วนตัวมองว่าหากมีการแก้กฎหมายกัญชา ร้านเหล่านี้อาจจะมีอยู่ แต่ต้องควบคุมด้วยเภสัชการ แต่เชื่อว่ามูลค่าการตลาดไม่สูงเท่าเพื่อการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการที่คนจากทั่วโลกพากันเข้ามาเพราะอยากลองกัญชาของไทย เพราะอเมริกาเองเพิ่งมีกัญชาถูกกฎหมายมาระยะหนึ่ง และอีกหลายประเทศก็เปิดเสรีกันแล้ว ส่วนต้นทุนในปัจจุบันของไทยเราก็ถูกลงจากการแข่งขันทางการค้า จึงได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ  


เรื่องนี้ไม่ได้กระทบแค่หน้าร้านเท่านั้น บรรดานักลงทุนฟาร์มกัญชาที่นำมาขายต่อร้านค้าปลีกก็มีอีกมากที่จะได้รับผลกระทบ อยากให้ทางรัฐบาลทบทวนเรื่องนี้ให้ดี หากจะทำก็ต้องหาแนวทางเยียวยาผู้ประกอบการด้วย เพราะผลกระทบค่อนข้างใหญ่ และมีคนตกงานหลักพันหลักหมื่นคนแน่นอน


ข้อมูลจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ 

ภาพจาก:  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง