แม่พาลูกสาว16 ร้อง 'ผู้สมัครผู้นำท้องถิ่น' ขืนใจ ยัดเงิน3หมื่นหวังจบเรื่อง-หยามซ้ำ
สุดจะทน! แม่พาลูกสาว วัย 16 ปี เข้าแจ้งความหลังถูก ผู้ลงสมัครผู้นำท้องถิ่น ขืนใจ แถมยังเอาเงินฟาดหวังจบเรื่อง ก่อนหยามซ้ำ เดือดโดนหมิ่นศักดิ์ศรี
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเอ นามสมมติ อายุ 39 ปี พร้อม นางสาวบี นามสมมติ บุตรสาว อายุ 16 ปี ชาวบ้านบ้านทุ่งสมอ ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เดินทางมายัง สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เข้าพบ พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.พนมทวน พ.ต.ท ภควรรติ กลั่นบุศย์ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ ร.ต.ท.ธิติ นกจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน)ฯ เพื่อเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ กับนายซี (นามสมมติ) (นายธรรมนิ จันทฤทธิ์) ชาวบ้านตำบลทุ่งสมอเช่นกัน โดยกล่าวหาว่า นายซีได้ก่อเหตุทำการลวนลามอนาจารและข่มขืนเด็กอายุ 16 ปี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563
โดย นางเอ ได้กล่าวกับพนักงานสอบสวนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองคนแม่และลูกได้ประสบความชอกช้ำและกดดันทางสภาพจิตใจไร้เกียรติศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์มาตลอดระยะเวลาตลอด 1 ปีกว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยการกระทำของ นายซี โดยนางเอเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พ.ย.63 โดย นายซี เป็นหัวหน้าเขตพนมทวนของมูลนิธิดังแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ตนเองและลูกสาววัย 16 ปี เป็นจิตอาสากู้ภัยในสังกัดดังกล่าว และตนพร้อมลูกสาวได้แจ้งผู้บังคับบัญชาของ นายซี จน นายซี ถูกผู้บังคับบัญชา มีคำสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว
และ นายซี ก็ได้เตรียมลงสมัครผู้นำท้องถิ่นในขณะนี้ด้วย ตนเองเกรงว่าหากได้รับการคัดเลือกเข้าไปแล้ว จะทำให้ชุมชนเดือดร้อน รวมถึงครอบครัวตนเองด้วย จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี และพนักงานสอบสวน สภ.พนมทวน ในครั้งนี้
โดยพฤติกรรมของ นายซี ได้ใช้ช่วงจังหวะเวลาโอกาสที่ปฏิบัติหน้าที่และอยู่ลำพังกับลูกสาว กระทำการลวนลามอนาจารลูกสาวของตนเองบ่อยครั้ง และยังขู่บังคับไม่ให้ลูกสาวเล่าให้ตนฟัง ต่อมาจนกระทั่งในวันที่ 21 พ.ย.63 นายซี ได้ล่อลวงลวนลามอนาจารข่มขืนลูกสาวของตนจนสำเร็จความใคร่
เหตุการณ์ดังกล่าวตนและครอบครัวตลอดจนชาวบ้านตำบลทุ่งสมอ ได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จนตนเองและครอบครัวสติแตก
สำหรับสภาพจิตใจของลูกสาววัย 16 ปี หวาดกลัวมากจนไม่เป็นอันทำการงานใดๆ ซึ่งได้มีบุคคลหลายท่านรวมถึงผู้มีพระคุณกับครอบครัวตนได้เข้ามาพยามยามพูดคุยไกล่เกลี่ยเรื่องราวดังกล่าว ไม่ให้ตนและครอบครัวเอาเรื่องกับ นายซี
ต่อมาได้มีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ทางภรรยาของ นายซี ที่มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้มาร่วมพูดคุยเจรจาไม่ให้เอาเรื่อง โดยมีการเสนอเงินเป็นจำนวน 6 หมื่นบาท ให้ตนและครอบครัว แต่ตนไม่รับ
หลังจากนั้นได้มีบุคคลเข้ามาพูดคุยกับตนและครอบครัวอีก คือป้าเล็กซึ่งเป็นบุคคลที่ทางครอบครัวของตนให้ความเกรงใจมาบอกให้รับเงิน 3 หมื่นบาท แล้วให้จบเรื่อง ตนและครอบครัวได้ปรึกษากันแล้วว่าจะรับเงินดังกล่าว เพื่อให้เป็นหลักฐานเอาไว้ดำเนินคดีกับนายซี
ต่อจากนั้นก็มีอีกบุคคลหลายท่านเข้ามาพูดคุยเพื่อไม่ให้ทางตนและครอบครัวดำเนินคดีกับทางนายซี ซึ่งในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนและครอบครัวมีความเกรงกลัวอิทธิพลและเครือข่ายของนายซี ไม่กล้าไปแจ้งความ ไม่กล้าที่จะไปพึ่งพาหน่วยงานของภาครัฐให้ช่วยเหลือได้แต่ทุกข์ระทมใจเพราะถูกฝ่ายของนายซี เหยียดหยามเย้ยหยันทั้งคำพูดและกิริยาว่าไม่สามารถที่จะทำอะไรเขาได้
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ตนและครอบครัวได้ทราบข่าวจากสื่อ กรณีของรองหัวหน้าพรรคการเมืองมีเรื่องของการกระทำลวนลามอนาจารของผู้หญิง ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำในระดับประเทศที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับนายซี ปัจจุบันได้ลงสมัครผู้นำท้องถิ่น ของตำบลทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ซึ่งการกระทำพฤติกรรมของนายซี ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรมอันดี เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม และสมควรแก่การเป็นผู้สมัครหรือไม่ และหากได้รับการเลือกตั้งจะเป็นที่เสื่อมเสียของหน่วยงานภาครัฐภายใต้การปกครองของกระทรวงมหาดไทย
ดังนั้นเราสองแม่ลูกจึงมาขอความอนุเคราะห์จากตำรวจช่วยตรวจสอบและส่งเรื่องที่ตนร้องเรียนนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับเพื่อขอให้ทางตำรวจช่วยให้เกิดความเป็นธรรมต่อครอบครัวของเรา และเพื่อเป็นการแจ้งต่อสังคมให้รับทราบถึงพฤติกรรมของคนที่เสนอตัวจะเป็นผู้นำในชุมชนว่าเขามีพฤติกรรมที่ไม่ดีแบบนี้อีกด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ภควรรติ กลั่นบุศย์ รอง ผกก.(สอบสวน) เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว วันนี้สอบปากคำแม่ของผู้เสียหาย และจะนัดหมายสอบปากคำผู้เสียหายที่เป็นเยาวชนต่อหน้าสหวิชาชีพ พร้อมติดตามตัว นายซี มาสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น โดยจะรีบรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาสั่งการตามระเบียบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พนมทวน นางเอและนางสาวบี สองแม่ลูก ได้เดินทางไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี โดยยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องร้องขอความเป็นธรรมให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครลงเลือกตั้ง ผู้นำชุมชนที่ขาดจริยธรรมคุณธรรมเหมาะสมหรือไม่ กรณีทำลวนลามอนาจารข่มขืนเด็กอายุ 16 ปี และดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีของครอบครัวผู้เสียหาย
โดย นางเอ ยังได้กล่าวด้วยว่า “ตนและครอบครัวมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ผิดแล้วเอาเงินมาฟาดหัวให้เรื่องจบไปเท่านั้น”