พิชัยสั่งแบงก์ลดกำไรออกสินเชื่อช่วยส่งออก

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายสถาบันการเงินของรัฐ ช่วยภาคธุรกิจรับ มาตรการภาษีสหรัฐ และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายรัฐบาล” ว่ากระทรวงการคลังมีนโยบายเร่งด่วนให้สถาบันการเงินของรัฐ 7 แห่ง ปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน โดยการลดเป้าหมายกำไรจากการทำธุรกิจ เพื่อจัดสรรเม็ดเงินงบประมาณมาจัดทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศนโยบายภาษีสหรัฐอเมริกาเป็นการเร่งด่วน โดยทุกแบงก์ที่มีลูกค้ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบข้างต้นให้เข้าไปดูแลเปิดห้องพูดคุยเพื่อช่วยเหลือในทันที ไม่ต้องรอให้ครบ 90 วัน ที่จะครบกำหนดเวลาการเจรจาภาษีกับสหรัฐ
สำหรับโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการสินเชื่อ Soft Loan วงเงิน 100,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสิน ที่กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขแตกต่างจากสินเชื่อ Soft Loan โครงการอื่น อัตราดอกเบี้ย 0.01 ซึ่งจะปล่อยสินเชื่อเอง หรือปล่อยให้สถาบันการเงินอื่น เพื่อนำไปปล่อยต่อก็ได้ โดยเป็นวงเงินสินเชื่อใหม่ที่จะต้องขอจากรัฐเพิ่มเติมจากวงเงิน 100,000 ล้านบาทเดิม เนื่องจากมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการชัดเจน 3 กลุ่ม ได้แก่
1. ธุรกิจส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา
2. ธุรกิจ Supply Chain
และ 3. ธุรกิจผู้ผลิตสินค้าที่ต้องมีการแข่งขันสูงกับสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ ตลอดจนผู้ประกอบการ SMEs
EXIM BANK ซึ่งมีผู้ส่งออกลูกค้าอยู่กว่า 3000 ราย ให้สำรวจ ล่วงหน้าว่ามีผู้ส่งออกรายใดจะได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีจนทำให้ธุรกิจสะดุดหรือไม่ ซึ่งจะมีทั้งหยุดชั่วคราวและหยุดระยะยาว ให้แบงก์เตรียมเสริมสภาพคล่องพร้อมกับลดอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆลงราวร้อยละ 20
อย่างไรก็ตามวงเงินที่ใช้ในมาตรการนี้สถาบันการเงินของรัฐจะเป็นผู้แบกรับไว้ แต่หากมีประเมินแล้วว่าลูกค้าได้รับผลกระทบมาก วงเงินสินเชื่อรวมสูง ให้แจ้งกระทรวงการคลังเพื่อขออนุมัติวงเงินจากครม.ต่อไป รวมทั้งกระทรวงการคลังก็จะเตรียมหารือกับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 5 ราย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของธุรกิจท่องเที่ยวที่อาจได้รับผลกระทบ และมาตรการช่วยแรงงานที่เสี่ยงจะตกงาน คงต้องทำในเฟส 2