ราชทัณฑ์ เข้มงวด! งดเเยี่ยมญาติทั่วประเทศ 1 เดือน หลังพบ 112 ราย เรือนจำนราฯ ติดโควิด
ข่าววันนี้ 4 เม.ย.64 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวขณะลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ว่า หลังจากพบเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาสติดโควิด-19 ซึ่งยังอยู่ในช่วงการเดินทางเพื่อทำกิจกรรมภายนอกร่วมกับผู้อื่น กรมราชทัณฑ์จึงได้รีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน ด้วยการนำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำกลับมาใช้อีกครั้ง แม้จะเพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการมาได้ไม่นาน
สำหรับครั้งนี้ กำหนดเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2564 โดยมีการดำเนินการ หลัก ๆ คือ
1. งดเยี่ยมญาติแบบปกติที่เรือนจำ
2. งดนำผู้ต้องขังออกทำงานนอกเรือนจำ
3. งตย้ายผู้ต้องขังระหว่างเรือนจำ
4. พิจารณาแนวทางอื่นแทนการนำผู้ต้องขังออกศาล
5. งดนำบุคคลภายนอกเข้าเรือนจำ
6. แยกกักโรค ผู้ต้องขังเข้าใหม่โดยห้ามย้ายหรือออกจากห้องเป็นระยะเวลา 14-21 วัน
7. ประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายในการเข้าตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายอย่างน้อย 2 ครั้งก่อนออกจากห้องแยกกักโรค
ส่วนการดำเนินการที่ยังสามารถทำได้
1. การเยี่ยมญาติทางไกลผ่านจอภาพ (แอปพลิเคชั่นไลน์)
2. การซื้อสินค้าฝากผู้ต้องขังและการฝากเงิน โดยให้เรือนจำและทัณฑสถานทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศ ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ยกเว้นมีเหตุจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติเป็นการเฉพาะกรณี ภายใต้วิถี New Normal คือ การเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
กรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่พบในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นได้มีมาตรการรองรับในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส คือ
1. BUBBLE AND SEAL คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า
2. SEPARATE การแยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ที่มีประวัติเสี่ยง
3. MOBILE FIELD HOSPITAL จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยใช้พื้นที่เรือนจำเก่า เพื่อ รองรับผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรง หรือไม่มีอาการให้อยู่ในการควบคุมไม่แพร่เชื้อสู่ภายนอก รวมถึงการเร่ง SWAB เพื่อตรวจหาโควิด-19 เชิงรุกในผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงทุกราย
อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ อยากให้ประชาชน รวมถึงญาติของผู้ต้องขังทุกคนมั่นใจว่า กรมราชทัณฑ์จะสามารถควบคุมและรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ได้ ภายใต้การประสานความ ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และขอให้เข้าใจถึงความจำเป็นในการประกาศใช้มาตรการอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งรวมถึงการประกาศงดเยี่ยมญาติแบบปกติที่อาจทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในครั้งนี้ด้วย
เรือนจำนราธิวาส ติดโควิด 112 ราย เตรียมเปิด รพ.สนาม
นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงนามในวิทยุสื่อสารด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 3 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ว่า จังหวัดนราธิวาส ได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับการรายงานสถานการณ์โควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส (2 เม.ย.64 เวลา 20.00 น.) จึงได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
จากการสอบสวนโรค พบว่า เรือนจำจังหวัดนราธิวาสมีผู้ต้องขัง รวม 2,334 ราย และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 97 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สัมผัสเชื้อ 791 ราย จึงได้เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว 214 ราย พบติดเชื้อ 112 ราย แยกเป็น เจ้าหน้าที่เรือนจำ 23 ราย นักโทษชาย 87 ราย นักโทษหญิง 1 ราย และพยาบาลเรือนจำ 1 ราย
ทั้งนี้ จังหวัดนราธิวาสได้ดำเนินการเฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาด โดยติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทุกราย เพื่อตรวจคัดกรองและนำเข้ากระบวนการดูแลตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และมีการเปิดโรงพยาบาลสนามในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด โดยผู้ป่วยรุนแรงจะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ต่อไป
ขณะเดียวกัน สวท.สุไหงโก-ลก ได้โพสต์ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม โดยระบุว่า เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ขอรายงานสถานการณ์การติดเชื้อ covid-19 ของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังล่าสุด (2 เม.ย.64) ดังนี้
1. ตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิค จำนวน 4 ราย
- เย็นวันนี้เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้รับรายงาน จากทางเรือนจํากลางสุราษฎร์ธานี ว่า ผลการตรวจผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ที่ไปร่วมกิจกรรม ทั้ง 4 คน เบื้องต้นผลเป็นบวก เจ้าหน้าที่ 4 คน ผลเป็นลบ
- การปฏิบัติเมื่อผู้ต้องขังดังกล่าวกลับมาที่เรือนจำแล้วจะรายงานให้สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสทราบ เพื่อดำเนินการรักษาอาการ ตามความเห็นแพทย์ต่อไป ทั้งนี้ หากไม่ต้องส่งตัวไปนอนที่โรงพยาบาล จะให้กับตัวที่ห้องแยกโรคแดน 6 (แรกรับ) ในส่วนของเจ้าหน้าที่ แม้จะตรวจไม่พบในเบื้องต้น แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดมีความเสี่ยงสูง เมื่อกลับมาถึงเรือนจำ จะให้กักตัวที่บ้านพักเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการที่กรมราชทัณฑ์และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
2. กำชับเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 14 ราย ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค covid-19 โดยเคร่งครัด กล่าวคือ ขณะอยู่บ้านพักให้แยกห้องนอนกับบุคคลในบ้านให้เว้นระยะห่าง 1.5 ถึง 2 เมตร ไม่รับประทานอาหารร่วม สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะพบปะผู้คนทั้งในบ้านและนอกบ้าน
3. วันนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เข้าตรวจหาเชื้อโดยวิธีการสวอปจากผู้ต้องขังจำนวน 119 คน และเจ้าหน้าที่เรือนจำจำนวน 65 คน รวมเป็นจำนวน 184 คน จะทราบผลตรวจในวันพรุ่งนี้
และในวันที่ 3 เม.ย.64 ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสและ เจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมโรคที่ 12 สงขลา จะเข้าตรวจผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงเพิ่มอีกทั้งแดน 5 (แดนที่พบผู้ต้องขังป่วย) และแดน 6
4. การประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ตามข้อ 4 เมื่อช่วงเย็น ได้กำหนดให้ทางเรือนจำจัดเตรียม สถานที่เป็นโรงพยาบาลสนาม จำนวน 1 แห่ง ซึ่งเรือนจำได้กำหนดให้แดน 2 (สถานพยาบาล) เป็นโรงพยาบาลสนาม กรณีมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดจำนวนมาก ซึ่งแดน 2 (พยาบาล) สามารถรองรับผู้ต้องขังได้ประมาณ 200 คน
5. กรณีมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดเกิน 200 คน ที่เเดน 2 (สถานพยาบาล) จะรองรับได้ เรือนจำได้กำหนดใช้แดน 6 (แรกรับ) เป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะรองรับผู้ต้องขังป่วยทั้งหมดได้ประมาณ 691 คน
ผู้ต้องขังสองเรือนจำพังงา เสี่ยงติดโควิดสูง
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา เขตเทศบาลเมืองพังงา อ.เมือง จ.พังงา นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นพ.ประกิจ สาระเทพ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา แถลงต่อสื่อมวลชน กรณีผู้ต้องขัง ของจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมกิจกรรม ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 คน เป็นผู้ต้องขัง 4 คน และ ผู้คุม 1 คน นั้น
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา แถลงร่วมกับทางสาธารณสุขจังหวัดพังงา ว่า จากการประเมินสถานการณ์ครั้งนี้ พบว่า ผู้ติดเชื้อจากจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้เข้าร่วมการแข่งขันในกิจกรรมเป็นทีมแรก และเมื่อแข่งขันเสร็จได้เดินทางกลับทันที ไม่ได้เข้าร่วมในส่วนของพิธีเปิด
ส่วนทีมเรือนจำพังงาและเรือนจำตะกั่วป่า แข่งขันลำดับที่ 13-14 จึงไม่มีโอกาสสัมผัสในห้องเข้าร่วมกิจกรรม มีระบบการทำความสะอาดอุปกรณ์หลังการแข่งขันเสร็จของแต่ละทีม ซึ่งในห้วงเวลาที่ผู้ติดเชื้อทำการแข่งขันไม่มีผู้ร่วมงานจากจังหวัดพังงาเข้าร่วมในช่วงเวลาและห้องประชุมเดียวกัน จึงถือได้ว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดของจังหวัดพังงา ทั้งทีมเรือนจำและทีมอื่น ๆ เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ
นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่มีผู้มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิดครั้งนี้เนื่องจาก ผู้ต้องขังจากเรือนจำตะกั่วป่าและเรือนจำจังหวัดพังงา มีประวัติเข้าพักรวมกัน ณ เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงาจึงขอกำหนดมาตรการดังนี้
1. กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน โดยจากเรือนจำตะกั่วป่า จำนวน 4 คน ขณะนี้ กักตัว อยู่ ณ เรือนจำอำเภอตะกั่วป่า และจะตรวจหาเชื้อในวันที่ 5 และวันที่ 14 ของการกักตัว จากเรือนจำจังหวัดพังงา 5 คน ขณะนี้ กักตัวอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน อำเภอกาญจนดิษฐ์
ทั้งนี้ สำหรับผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำทั้งสองแห่ง ได้ประสานขอรายชื่อผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและสมัครใจ เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อพิจารณาฉีดในสัปดาห์หน้า
2. กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำที่ร่วมกิจกรรมจากจังหวัดพังงามีรายชื่อทุกคน ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT (Self Qualantine) โดยจัดส่ง GOOGLE FORM ให้ทุกคนรายงานอาการผิดปกติทุกวัน
และทาง สสจ.พังงา จะรวบรวมเป็นรายวัน จนครบ 14 วัน ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง ศูนย์สื่อสารความเสี่ยง สสจ.พังงาโทรศัพท์ 098-1313422
ทั้งนี้ ทางจังหวัดพังงาได้รับวัคซีนจากรัฐบาลแล้วจำนวน 10,000 โดส สำหรับแผนฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.64 นี้ เป้าหมายสำหรับกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.ตะกั่วทุ่ง จำนวน 450 คน อ.เกาะยาว 100 คน อ.ตะกั่วป่า 1,500 คน อ.ท้ายเหมือง 250 คน อ.เมือง 200 คน และ อ.คุระบุรี จำนวน 50 คน ส่วน อ.ทับปุด และ อ.กะปง ทางจังหวัดได้เสนอในล็อตต่อไป ส่วนอีก 60 เปอร์เซ็นต์เป็นกลุ่มคนที่มีเป้าหมายในการเดินทาง อีก 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข อุทยานฯ มัคคุเทศก์ ผู้มีความเสี่ยงสูง 10 เปอร์เซ็นต์ และ อีก 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นแพทย์ บุคลากรที่มีความเสี่ยงสูง ประชาชนที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงสูง และเจ้าหน้าที่บุคลากรส่วนหน้า โดยกระจายแต่ละอำเภอแยกเป็นประเภทประเภทละ 50 คน เว้น อ.เมือง และ อ.ตะกั่วป่า อำเภอละ 100 คน
ด้าน นพ.ประกิจ สาระเทพ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา กล่าวว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ได้จัดทำแผนในการฉีดวัคซีนครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดพังงา โดยจัดแผนให้กระจายทั่วทั้งจังหวัดพังงา พร้อมกับความปลอดภัยในการฉีดวัคซีนครั้งนี้ ซึ่งได้ประสานกับทางโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง ในจังหวัดพังงา และบุคลากร พร้อมให้บริการกับประชาชนที่เข้ารับวัคซีนล็อตแรก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมั่นใจแก่ผู้เข้ารับวัคซีน และต้องการคัดกรอง สอบถามประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ต่างๆหลังการฉีดวัคซีนตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข
ผู้ต้องขัง-ผู้คุมเรือนจำภูเก็ต 7 ราย สัมผัสเสี่ยงสูง
สืบเนื่องจากกรณีผู้ต้องขังของจังหวัดนราธิวาสซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 คน โดยเป็นผู้ต้องขัง 5 คน และ ผู้คุม 1 คน ก่อนที่ล่าสุดมีรายงานว่า จากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกกว่า 100 คน
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานดังกล่าวที่ จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวังการติดเชื้อจากการเข้าร่วมงานดังกล่าว ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้มีการออกประกาศสำนักงานสาธารณสุข ขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมและเข้าชมงานนิทรรศการ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 07.00-17.00 น. โดยให้แยกตัวสังเกตอาการถึงวันที่ 16 เมษายน 2564
หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หากมีข้อสงสัยให้สอบถามได้ที่ โทร.094 593 5342, 094 5938 876
นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีผู้ที่เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย เบื้องต้นได้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กับสถานพินิจจังหวัดภูเก็ต
ซึ่งจากการติดตามตรวจของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนโรค ได้ประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า ผู้ติดเชื้อจากจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้เข้าร่วมการแข่งขันเป็นทีมแรกใช้เวลาอยู่ในห้องแข่งขันประมาณ 1-2 ชั่วโมง และไม่ได้เข้าร่วมในส่วนของพิธีเปิด เมื่อแข่งขันเสร็จได้เดินออกจากห้องประชุมและเดินทางกลับ
ส่วนทีมเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแข่งขันลำดับที่ 9 ไม่ได้สัมผัสในห้องร่วมกิจกรรม โดยกลุ่มเรือนจำจังหวัดภูเก็ต มีประวัติไปพักรวมกัน ณ เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ ทางเรือนจำจังหวัดภูเก็ตที่เข้าร่วมกิจกรรม 7 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขัง 4 คน และผู้คุม 3 คน ขณะนี้ได้รับการตรวจหาเชื้อและกักตัวอยู่ที่เรือนจำทุ่งเขน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์กู้ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ด้วยกลุ่มเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะได้รับการเก็บตัวอย่างหาเชื้ออีกครั้งในวันที่ 5, และวันที่ 14 ของการกักตัว ส่วนของกลุ่มผู้ที่ไปร่วมกิจกรรมจากจังหวัดภูเก็ต ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เช่น สถานพินิจฯ ซึ่งมีการแสดงกิจกรรมคนละห้องกับผู้ติดเชื้อ และเดินทางกลับมาก่อน เป็นต้น จะได้รับการติดตามอาการป่วย จนครบ 14 วัน (ถึงวันที่ 16 เมษายน 2564) และต้องปฏิบัติตามมาตรการ หากมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที