ใครได้ชิ้นไหนเช็คเลย!! ของขวัญปีใหม่ซานต้าตู่
วันที่ 24 ธันวาคม ทีมเศรษฐกิจ มติชนออนไลน์ ได้รวบรวมของขวัญปีใหม่จากกระทรวงเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ ภายใต้การบริหารของ ซานต้าตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ของขวัญกระทรวงเหล่านี้จะโดนใจใครบ้าง ไปส่องกันเลย …
- ของขวัญปีใหม่ “กระทรวงการคลัง” จาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
– ธนาคารออมสิน มอบเงินจำนวน 500 บาท ให้กับลูกค้าที่มีประวัติการส่งชำระหนี้ดี และเพิ่มรางวัลพิเศษของสลากออมสิน Digital “ฉลองปีใหม่ 2564” จำนวน 20 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท
– ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) โครงการชำระดีมีคืน สำหรับหนี้เงินกู้จัดชั้นปกติ และ โครงการลดภาระหนี้ สำหรับหนี้เงินกู้ NPLs หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน
– ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มอบเงินจำนวน 1,000 บาท สำหรับผู้มีเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท และ เงินจำนวน 500 บาท จำนวนไม่เกิน 100,000 ราย
– ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เสริมสภาพคล่อง SMEs ไทย โดยลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์โครงการ และ โครงการ “จ่ายดี มีเติม” สำหรับลูกค้าเดิมที่มีประวัติชำระดี บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ช่วยจัดสรรการผ่อนชำระ สำหรับลูกหนี้ค่าประกันชดเชยขออนุมัติประนอมหนี้ครั้งแรก ช่วยลดอัตราดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้ประกันชดเชยที่มีศักยภาพ ในอัตราดอกเบี้ย 0% โดยผ่อนชำระ และ ช่วยลดค่างวดผ่อนชำระ สำหรับลูกหนี้ค่าประกันชดเชยก่อนฟ้องและหลังฟ้อง ในอัตราดอกเบี้ย 7.5%
– ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ด้านสินเชื่อ สำหรับผู้ประกอบการเริ่มต้นธุรกิจส่งออก สามารถยื่นขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี สำหรับผู้ประกอบการ SMEs สามารถยื่นขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 4% ต่อปี และด้านรับประกันการส่งออก สำหรับผู้เอาประกันรายใหม่ 100 รายแรก จะได้รับฟรี ค่าวิเคราะห์ข้อมูลผู้ซื้อ และรายเดิม จะได้รับส่วนลด 50% ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 28 กุมภาพันธ์ 2564
– ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ลูกค้าสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล จะได้รับฟรีค่าธรรมเนียมนิติกรรมสัญญาและค่าประเมินหลักประกัน และสำหรับลูกค้าทั่วไปให้อัตรากำไรพิเศษในช่วงเดือนมกราคม 2564
– การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถหักรายจ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน 2564 เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง
– โครงการกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ 10 บาท นิวนอร์มอลพลัส ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 31 มกราคม 2564
– กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มาตรการเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระทางการเงิน สำหรับผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2564
– สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จัดทำไมโครไซต์ Start to Grow ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563
– โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (เฟส2) ผู้ได้รับสิทธิเดิมตามโครงการคนละครึ่ง ไม่เกิน 10 ล้านคน จะได้รับสิทธิวงเงินสนับสนุนจากรัฐเพิ่มเติมคนละ 500 บาท และผู้ลงทะเบียนใหม่ ไม่เกิน 5 ล้านคน จะได้รับสิทธิวงเงินสนับสนุนจากรัฐคนละ 3,500 บาท สำหรับใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2564
– โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 ภาครัฐช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2564
- ของขวัญปีใหม่ “กระทรวงพลังงาน” จาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ประกอบด้วย 2 มาตรการหลัก คิดรวมเป็นมูลค่า ประมาณ 3,829 ล้านบาท
– มาตรการแรก การลด/ตรึงราคาพลังงาน โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 เพื่อลดค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทางช่วงปีใหม่ รวมมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท
– การขยายระยะเวลาการคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นแอลพีจี( แอลพีจี) ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กำหนดราคาที่ 14.3758 บาทต่อกิโลกรัม มีกรอบเป้าหมายให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 รวมมูลค่า 1,890 ล้านบาท
– การปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน จากเดิม -12.43 สตางค์ เป็น -15.32 สตางค์ ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลง 2.89 สตางค์ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 ประหยัดค่าไฟฟ้าได้เดือนละประมาณ 400 ล้านบาท รวมมูลค่า 1,600 ล้านบาท
– ขยายเวลายกเว้นการเก็บอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด (มินิมัม ชาร์จ) โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ให้ผู้ประกอบการ กิจการขนาดกลาง ขนาดใหญ่ กิจการเฉพาะอย่าง องค์กรไม่แสวงหากำไร และการสูบน้ำเพื่อการเกษตร ออกไปอีก 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการจากผลกระทบโควิด-19 จะสามารถบรรเทาผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3-7 ได้ประมาณ 50 ล้านบาทต่อเดือน รวมมูลค่า 150 ล้านบาท
– มาตรการด้านคูปองส่วนลด โดย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ให้คูปองส่วนลดสำหรับซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว โดยเป็นโครงการช้อปหารสอง แจกคูปองส่วนลดสำหรับซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว 25,000 สิทธิ และคูปองส่วนลดสำหรับซื้อสินค้าชุมชน กฟผ. จำนวน 17,000 สิทธิ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2563 และใช้สิทธิได้ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 รวมมูลค่า 15.8 ล้านบาท
– คูปองส่วนลดสำหรับที่พักที่เขื่อน กฟผ. โครงการเที่ยวหารสอง โดย กฟผ. แจกคูปองส่วนลดครึ่งราคาที่พักเขื่อน กฟผ. 10,000 สิทธิ์ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2563 และใช้สิทธิ์ได้ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 รวมมูลค่า 23 ล้านบาท
- ของขวัญปีใหม่ “กระทรวงคมนาคม” จาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
– การยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และทางพิเศษที่กำหนด
– กรมทางหลวง เตรียมเปิดฟรีมอเตอร์เวย์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 กรุงเทพ-ชลบุรี-พัทยา และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 บางปะอิน-บางพลี พระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียนตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ถึง เวลา 24.00 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2564 เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางในช่วงเทศกาล
– โครงการอำนวยความสะดวกในการชำระค่าผ่านทางสำหรับผู้ใช้ทางยกระดับดอนเมือง
– การให้บริการเรือข้ามฟากฟรีจากท่าเรือปากคลองสานมายังท่าเรือกรมเจ้าท่า
– การให้บริการรับ-ส่งฟรีระหว่างสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) กับสถานีรถไฟฟ้า (บีทีเอส) และกรมการขนส่งทางบก
– การปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานครและขยายเวลาเปิดให้บริการรถไฟฟ้า
– การบริการที่จอดรถฟรี ณ ท่าอากาศยานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
– การขยายเวลาเปิดบริการเลื่อนล้อต่อภาษี และจัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่”
– โครงการ “คุ้มครองทั่วไทย คุ้มใจให้สุข” โดยมอบวัตถุมงคล จำนวน 999 เหรียญ ให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร)
– การจัดกระเป๋าส่งความสุข จำนวน 10,000 ใบ ณ สถานีหัวลำโพง
– เปิดทดลองให้บริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยาฟรี ระหว่างวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2564 โดยแบ่งการให้บริการออกเป็น 2 ส่วน คือวันจันทร์-ศุกร์ ให้บริการฟรีจอดรับส่งผู้โดยสาร บริเวณท่าเรือ 11 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือพระราม 5 พระราม 7 เกียกกาย บางโพธิ์ เทเวศ พรานนก ปากคลองตลาด ราชวงศ์ กรมเจ้าท่า แคททาวเวอร์ และสาทร ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ จะให้บริการฟรี เฉพาะท่าเรือ ที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ท่าช้าง วัดอรุณฯ วัดกัลยาณมิตร กรมเจ้าท่า และท่าแคททาวเวอร์
- ของขวัญปีใหม่ “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” จาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
– ปรับเงื่อนไขโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ได้แก่ จากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน ต่อ 1 สิทธิ สามารถจองที่พักเพิ่มอีก 5 คืน เป็น 15 คืน ต่อ 1 สิทธิ ขยายระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการถึง เดือนเมษายน 2564 และขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายโครงการ ถึงเดือนมิถุนายน 2564
– โครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า ใช้วงเงินงบประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขคือ ผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ผ่านบริษัทนำเที่ยว โดยมีราคาแพกเกจทัวร์เริ่มต้นขั้นต่ำ 12,500 บาท ระยะเวลาการเดินทางท่องเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุ เป้าหมาย 1 ล้านคน จำนวน 5,000 บาท ต่อ 1 ท่าน โดยบริษัทนำเที่ยวสามารถรับนักท่องเที่ยวได้บริษัทละ 3,000 ราย
– เพิ่มสิทธิห้องพักเราเที่ยวด้วยกัน จำนวน 1 ล้านห้อง ที่ได้เลื่อนมาจากวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากพบพฤติกรรมทุจริตในการร่วมโครงการ แต่เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว จะได้ใช้สิทธิในโครงการได้ก่อนถึงวันขึ้นปีใหม่นี้
– เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้วีซ่าประเภทพิเศษ (เอสทีวี) เพื่อสร้างบรรยากาศการใช้จ่าย และดึงรายได้จากต่างชาติเข้ามาเพิ่มเติม โดยนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ที่ผ่านมา จำนวน 825 คน จาก 29 สัญชาติ ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้ยกเลิกเงื่อนไข เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยได้ง่ายมากขึ้น ได้แก่ 1.นักท่องเที่ยวระยะยาวที่ให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ จากนี้ไปเปิดให้เป็นคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเข้ามาพำนักในระยะยาว โดยไม่กำหนดประเทศ ขณะที่นักท่องเที่ยวที่มากับเรือสำราญเช่นเดียวกัน ไม่จำกัดว่าต้องมาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ ประเทศใดก็ได้ ตลอดจนขยายระยะเวลาการตรวจลงตรานักท่องเที่ยวประเภทเอสทีวี ณ ช่องทางอนุญาตด่านตรวจคนเข้าเมืองอีก 30 วัน นับแต่ประกาศฉบับนี้บังคับใช้ แต่ยังยืนยันว่า ต้องกักตัว 14 วันอย่างเคร่งครัด
- ของขวัญปีใหม่ “กระทรวงพาณิชย์” จาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
– ทำโครงการ “พาณิชย์ลดกระหน่ำ ข้ามปี! New Year Grand Sale 2021” ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 ถึง 31 มกราคม 2564 รวมระยะเวลา 45 วัน ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนประมาณ 1,000 ล้านบาท
– ลดราคาใน 4 กลุ่มสินค้าและบริการหลัก คือ สินค้าต่างๆ ที่มีสินค้าเข้าร่วมกว่า 22,000 รายการ ใน 15 หมวดสินค้า เช่น อาหารและเครื่องดื่ม อาหารปรุงสำเร็จ ซอสปรุงรส ของใช้ในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง อาหารเสริม เครื่องครัว เครื่องสำอาง และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาเข้าร่วมเป็นครั้งแรก และยังมียารักษาโรค เวชภัณฑ์ ยางรถยนตร์ อุปกรณ์งานช่าง วัสดุก่อสร้าง รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและหมวดอื่นๆที่เกี่ยวข้องรวม 15 หมวด ลดสูงสุดถึง 85%
– หมวดบริการ มีมาเข้าร่วมกว่า 500 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 87% ใน 4 หมวดบริการสำคัญ ประกอบด้วย บริการทางการแพทย์ ,ศูนย์บริการยานยนต์ ,โรงแรมที่พัก
,ร้านอาหารซึ่งมีสมาคมภัตตาคารเป็นหัวเรือใหญ่ร่วมกับร้านอาหารทั่วประเทศเข้าร่วม
– หมวดแพลตฟอร์มสำคัญ 4 แพลตฟอร์ม ประกอบด้วย ไปรษณีย์ไทยมหาชนจำกัด ลดราคาสินค้าที่จำหน่ายบนแพลตฟอร์มไปรษณีย์ไทย หรือ thaipostmart.com ลดทั้งค่าสินค้าและค่าขนส่ง , grab food ลดทั้งราคาสินค้าและค่าขนส่ง โดยลดในส่วนของคูปองถึง 50% , ลาซาด้า ลดราคาสินค้าในลาซาด้ามากกว่าที่ลดปกติ , ชอบไทย ลดราคาสินค้าถึง 60% โดยแพลตฟอร์มจะลดทั้งราคาสินค้าและค่าขนส่ง และหมวดที่
– โลจิสติกส์จะมีสายการบิน 3 สายการบินที่เข้าร่วมรายการกับพาณิชย์ลดกระหน่ำข้ามปี คือ นกแอร์ ไทยสมายล์และไลออนแอร์ เพิ่มน้ำหนักโดยไม่คิดมูลค่าให้กับผู้โดยสาร 5-15 กิโลกรัม โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ผ่านคิวอาร์โค้ดที่ติดอยู่ในป้าย พาณิชย์ลดกระหน่ำ ข้ามปี! New Year Grand Sale 2021 ที่ปรากฏอยู่ในห้างร้านสินค้าต่างๆ ตั้งแต่วันนี้วันที่ 16 ธันวาคมถึงวันที่ 31 มกราคม 2564
“สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าส่ง – ปลีกไทย ห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่น รวมมากกว่า 16,900 สาขาทั่วประเทศ สินค้าและบริการมากกว่า 22,000 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 87% คาดว่าสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนประมาณ 1,000 ล้านบาท ขอย้ำว่าจะลดจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 แน่นอน”
- ของขวัญปีใหม่ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
– โครงการประกันรายได้ชาวสวนยาง ระยะที่ 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,834,087 ราย โดยแบ่งเป็นเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับ กยท. จำนวน 1,142,294 ราย เกษตรกรชาวสวนยางที่แจ้งพื้นที่ปลูกกับ กยท. จำนวน 419,060 ราย และคนกรีดยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. จำนวน 272,733 ราย การจ่ายเงินส่วนต่างจะแบ่งออกเป็น 6 งวด หรือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึง มีนาคม 2564 โดยในเดือนธันวาคม ได้จ่ายให้ย้อนหลัง 2 งวด ที่ล่าช้า
– เปิดศูนย์วิจัยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตรฟรี จำนวน 22 แห่ง อยู่ในภาคเหนือ 10 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 แห่ง ภาคใต้ 5 แห่ง ภาคตะวันออก 2 แห่ง และภาคกลาง 1 แห่ง ซึ่งทั้ง 22 แห่งจะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่แวะเข้าไปเยี่ยมชมจำนวนต่างกันไป
– เปิดสถานที่ราชการ อาทิ เขื่อนต่างๆ โดยจะเปิดให้ประชาชนไปตั้งแคมป์ฟรี และเปิดพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำให้เข้าชมฟรี โดยจะมีมาตรการคุมเข้มตามระเบียบของสาธารณะสุข
– แคมเปญ “ช้อปวิถีใหม่ ส่งสุขทั่วไทยถึงหน้าบ้าน” ที่เป็นการรับผลผลิตจากเกษตรกรนำให้ประชาชนเลือกซื้อเป็นของขวัญวันปีใหม่ ซึ่งถือเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ 2 ชั้น คือเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และประชาชนได้สินค้าที่สดใหม่ที่เหมือนส่งตรงมาจากสวน ผ่านแพลตฟอร์มในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ อาทิ DGT Farm , อตก.เดลิเวอรี่ , ตลาดเกษตรกรออนไลน์ , Fisheries Shop , Co-op Click เป็นต้น
– กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังมี ช่องทางการสั่งซื้อกระเช้าสินค้าสหกรณ์ ติดต่อได้ที่เฟสบุ๊ก โคออบมาร์เก็ต (coop market) มีทั้งกระเช้าสำเร็จรูปและตกแต่งไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์มีบริการจัดส่งฟรีสำหรับผู้ที่สั่งซื้อกระเช้าสินค้าสหกรณ์ ครบ 5,000 บาท ขึ้นไป เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะเปิดจำหน่ายทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม2563 – 12 มกราคม 2564 ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้แจกคูปองส่วนลด 10% อีกด้วย
- ของขวัญปีใหม่ “กระทรวงอุตสาหกรรม” โดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
– ลดภาระ ลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ยกวนค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจดทะเบียนเครื่องจักร (กรอ.) , ยกเว้นค่าธรมเนียมใบอนุญาต มอก. /การเรีกเก็บค่ธรรมเนียมและค่าบริการ (สมอ.) , ลดค่าบริกา 25% ในการใช้ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ หรือบริการสอบเทียบ เครื่องมือวัด
สำหรับการตรวจวิเคราะห์สารที่อาจปนเปื้อนมาในอาหาร จำนวน 250 สิทธิ์ (สถาบันอาหาร)
– แจกซอฟแวร์ฟรีสำหรับอสเอ็มอีไทย จำนวน 29 โปรแกรม ให้ใช้ 6 เดือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ (กสอ.)
– ซื้อพลาสติกย่อยสลายทางชีวภาพ ลดหย่อนภาษี 1.25 เท่า (สศอ.)
– เสริมสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ สินเชื่อ “เสริมพลัง สร้งอนาคต SME ไทย” วงเงิน 1,000 ล้นบาท ดอกเบี้ย 196 ไม่เกิน 5 ล้านบาท/ราย (กองทุนเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ), ขยายเวลา พักชำระหนี้สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย (กสอ.), สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง SMES ไทย (ธพว.), สินเชื่อ “จ่ายดี มีเติม” สำหรับลูกค้าเดิมประวัติดี (ธพว.)
– กำหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2563/64 ระดับ 920 บาทต่อตัน(10ซีซีเอส) อยู่ระหว่างการทำเรื่องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป อย่างไรก็ตามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบนโยบายให้ช่วยเหลือชาวไร่อ้อยได้รับราคาอ้อยไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อตัน เพราะชาวไร่มีต้นทุนตัดอ้อยเพิ่มขึ้น จากนโยบายรัฐบาลให้มุ่งเน้นการตัดอ้อยสด 80% ลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ให้เหลือเพียง 20% เพื่อลดปัญหาฝุ่นพิษพีเอ็ม2.5 ดังนั้นจึงกำลังพิจารณาดำเนินโครงการช่วยเหลือเพิ่มค่าแรงงานประมาณ 120-130 บาทต่อตัน
- ของขวัญปีใหม่ “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” โดย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงดีอีเอสชวนให้ 4 หน่วยงานในสังกัด ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา, บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) จัดเตรียมของขวัญจำนวน 9 โครงการ เพื่อมอบให้กับประชาชน อาทิ บริการแจ้งเตือนภัยธรรมชาติผ่านเอสเอ็มเอส/ข่าวสารอุตุฯ โปรฯฟรีค่าโทรและไวไฟ ส่วนลดเติมเงินมือถือ ส่ง ส.ค.ส. ฟรีทางไปรษณีย์ และส่วนลด 20% สำหรับการซื้อสินค้าผ่าน www.thailandpostmart.com ครบทุก 500 บาท พร้อมส่งฟรีทั่วไทย เป็นต้น