รีเซต

ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ แนะฉีดวัคซีนโควิด-19 'ไฟเซอร์-โมเดอร์นา' แทน 'จอห์นสันฯ'

ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ แนะฉีดวัคซีนโควิด-19 'ไฟเซอร์-โมเดอร์นา' แทน 'จอห์นสันฯ'
Xinhua
17 ธันวาคม 2564 ( 15:53 )
61

วอชิงตัน, 17 ธ.ค. (ซินหัว) -- คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการสร้างภูมิคุ้มกันประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ มีมติเอกฉันท์แนะนำการใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นา แทนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เนื่องด้วยความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันที่หายากแต่อันตราย

 

ข้อมูลจากคณะกรรมการฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ธ.ค.) รายงานว่าสหรัฐฯ ตรวจพบผู้ป่วยภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ (TTS) ซึ่งเป็นลิ่มเลือดอุดตันชนิดรุนแรงและหายาก จำนวน 54 ราย ระหว่างเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม จากกลุ่มประชาชนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันฯ ทั้งหมด 14.1 ล้านโดสอัตราการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำในกลุ่มผู้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แตะจุดสูงสุดที่เกือบร้อยละ 20 ในหมู่ผู้รับวัคซีนวัย 30-49 ปี โดยผู้มีภาวะดังกล่าวทั้งหมด 26 ราย เป็นผู้หญิงอายุต่ำกว่า 50 ปี และราวร้อยละ 80 เป็นคนผิวขาวที่ไม่ใช่ชาวลาตินนอกจากนั้นสหรัฐฯ ยังพบผู้เสียชีวิตจากภาวะดังกล่าวรวม 9 ราย เป็นหญิง 7 ราย และชาย 2 ราย ซึ่งล้วนเป็นคนผิวขาวที่ไม่ใช่ชาวลาติน เมื่อนับถึงวันที่ 9 ธ.ค. โดยมีอัตราการรายงานการเสียชีวิตโดยรวมอยู่ที่ 0.57 รายต่อการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันฯ หนึ่งล้านโดสวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันฯ แบบฉีดโดสเดียว ถูกตรวจพบว่ามีความเชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ และถูกระงับใช้นาน 10 วันเมื่อเดือนเมษายน ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) ทำการทบทวนความปลอดภัยและอนุญาตให้ใช้งานอีกครั้งณ เวลานั้น สำนักงานฯ และศูนย์ฯ ได้ดำเนินการทบทวนความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันฯ โดยพิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งบ่งชี้ว่าประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั้งนี้ สหรัฐฯ ใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นาเป็นส่วนใหญ่ โดยมีการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคแล้วราว 284 ล้านโดส และโมเดอร์นาอีก 186.4 ล้านโดส เมื่อนับถึงวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมาขณะวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันฯ ถูกฉีดให้ประชาชนราว 17.2 ล้านโดส นับตั้งแต่ผ่านการอนุมัติใช้งานกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง