สำรวจธุรกิจรุ่ง-ร่วงปี 64 ยุคโควิด 'บริการทางการแพทย์-อีคอมเมิร์ซ' ขึ้นแท่น 'ยูทูบเบอร์' พลิกฟื้นมาแรง

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลการวิจัยทางธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจเด่น ธุรกิจร่วง และธุรกิจที่มีความเสี่ยง ในปี 2564 พบว่า 10 ธุรกิจเด่น ได้แก่ อันดับ 1.ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม และธุรกิจธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce ) 2.ธุรกิจตัวกลาง หรือตลาดกลางทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ (แพลตฟอร์ม) และธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ youtuber และการรีวิวสินค้า 3.ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต 4.ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจเวชภัณฑ์ ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเวชภัณฑ์และทางการแพทย์

นายธนวรรธน์กล่าวว่า 5.ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีวิเคราะห์และจัดการข้อมูล 6.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ 7.ธุรกิจบน street food 8.ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ และดิลิเวอรี และธุรกิจด้าน fintech และการชำระเงินฝากระบบเทคโนโลยี 9.ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจตู้หยอดเหรียญ อาทิ ร้านสะดวกซัก เครื่องเติมเงิน เครื่องเติมน้ำ และ 10.ธุรกิจด้านกฎหมายและบัญชี และธุรกิจออกแบบและผลิตภัณฑ์

นายธนวรรธน์กล่าวว่า ปัจจัยหนุนธุรกิจรุ่งคือความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 และพฤติกรรมของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งการพัฒนาของเทคโนโลยี ขณะเดียวกันปัจจัยเสี่ยงต่อธุรกิจรุ่งคือการแข่งขันสูงในแต่ละกลุ่มธุรกิจ สำหรับ 10 อันดับของธุรกิจรุ่งในปี 64 นั้น ธุรกิจ e-commerce เป็นธุรกิจที่ติดอยู่ในอันดับ 1-3 มาตลอดตั้งแต่ปี 2560 เช่นเดียวกับธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามที่กลับมาติดอันดับ 1 อีกครั้ง หลังจากติดอันดับ 5 ปี 2563 ส่วนธุรกิจอื่นที่กลับมาใหม่ อาทิ ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ youtuber และการรีวิวสินค้า ธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ และธุรกิจตู้หยอดเหรียญ

“ในส่วน 10 อันดับธุรกิจดาวร่วง ปี 2564 ได้แก่ 1.ธุรกิจเช่าหนังสือ 2.ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและเครื่องโทรสาร และธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ความจำ อาทิ แผ่น ซีดี เมมโมรี่การ์ด 3.ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร 4.ธุรกิจร้านให้บริการอินเตอร์เน็ต และธุรกิจคนกลาง 5.ธุรกิจดังเดิมไม่มีดีไซน์ และใช้แรงงานเยอะ (เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น) 6.ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใช้แรงงานมากและขายในประเทศ และธุรกิจหัตกรรม เฟอร์นิเจอร์แบบดั้งเดิม 7.ธุรกิจซ่อมรองเท้า 8.ธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิม และธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก 9.ธุรกิจผลิตผักและผลไม้อบแห้ง และ 10.ธุรกิจร้านถ่ายรูป โดยปัจจัยคือการที่ธุรกิจเหล่านี้ไม่สามารถพัฒนาได้ตามยุคสมัย และถูกรบกวนจากการพัฒนาของเทคโนโลยี

“ขณะที่ 10 อันดับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คือ 1.สายการบิน 2.ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ 3.โรงแรม 4.ธุรกิจของที่ระลึก 5.ธุรกิจจัดประชุมและแสดงสินค้า 6.ผับ บาร์ สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน 7.ธุรกิจสปา 8.อสังหาริมทรัพย์ 9.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ และ 10.ร้านอาหารและภัตตาคาร” นายธนวรรธน์กล่าว