รีเซต

แห่บูชาพระรุ่นดัง 'หลวงปู่รอด' เกจิดังแห่งอีสานใต้ ศิษย์เผยพุทธคุณ 'แค่ชื่อก็รอดแล้ว'

แห่บูชาพระรุ่นดัง 'หลวงปู่รอด' เกจิดังแห่งอีสานใต้ ศิษย์เผยพุทธคุณ 'แค่ชื่อก็รอดแล้ว'
มติชน
21 พฤศจิกายน 2565 ( 22:40 )
237

แน่นวัด- แห่บูชาพระรุ่นดัง ‘หลวงปู่รอด’ พระเกจิดังแห่งอีสานใต้  บางคนไม่เคยรู้จัก ฝันเห็นจึงทำบุญ พร้อมเผยศรัทธา แค่ชื่อก็รอดแล้ว

 

สุรินทร์ – ผู้คนแห่บูชาพระรุ่นดังของหลวงปู่รอดแน่นวัดโคกกรม ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารของ พระครูอาภัสร์ธรรมคุณ หรือ หลวงปู่รอด อาภัสสโร พระเกจิดังแห่งอีสานใต้ ที่ได้ละสังขารไปเมื่อคืนวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา บางคนไม่เคยรู้จัก แต่หลวงปู่ไปเข้าฝันจึงได้มาทำบุญ พร้อมเผยศรัทธา แค่ชื่อก็รอดแล้ว

 

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ วัดโคกกรม ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารของ พระครูอาภัสร์ธรรมคุณ หรือ หลวงปู่รอด อาภัสสโร พระเกจิดังแห่งอีสานใต้ ที่ได้ละสังขารไปเมื่อคืนวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศตั้งแต่เช้าจนกระทั่งบ่ายวันนี้ ได้มีพุทธศาสนิกชน และผู้ศรัทธานิยมพระเครื่อง จากทั่วสารทิศ ได้พากันหลั่งไหลมาที่วัดตั้งแต่เช้า เพื่อมาร่วมทำบุญและหาเช่าบูชาพระเครื่อง และเครื่องรางของขลังรุ่นต่างๆของหลวงปู่รอด ที่ท่านได้ทำไว้ก่อนละสังขารที่ทางวัดยังพอมีเหลือ และนำออกมาให้ประชาชนได้เช่าบูชา ที่บริเวณซุ้มโดมหน้าวัดกันอย่างเนื่องแน่นตลอดทั้งวัน

 

จากการสอบถามผู้ที่มาเช่าพระและเครื่องรางของขลังของหลวงปู่รอด รายหนึ่ง ที่ไม่ประสงค์ออกนาม ซึ่งได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯพร้อมคณะตั้งแต่ตี 5 วันนี้ โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่รู้จักหลวงปู่รอดมาก่อน แต่เมื่อ 1 เดือนก่อนที่จะเดินทางมาที่นี่ ตนได้ฝันเห็นหลางปู่เอาพระมาให้ และมีคนแก่บอกว่าจะมีพระรูปหนึ่งเสีย ให้ไปทำบุญที่วัด ซึ่งต่อมาตนก็มาเห็นข่าวว่ามีพระเกจิดังแห่งอีสานใต้ได้มรณภาพ แต่เมื่อเข้าไปดูในเพจของวัดก็เห็นว่าเป็นพระที่ตนฝันเห็นเอาพระมาให้ นั้นก็คือหลวงปู่รอด แห่งวัดโคกกรม

 

ตนจึงได้เดินทางมาที่วัดเพื่อทำบุญและหาเช่าพระเครื่องและของขลังจำนวนมาก เพื่อทำไปบูชาและฝากเพื่อนฝูงและญาติๆ ซึ่งตนมีความศรัทธา และเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะแค่ชื่อก็รอดแล้ว หากจะทำอะไรก็จะรอดปลอดภัยแน่นอน จากนั้นก็ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯพร้อมคณะทันที พร้อมกับพระเครื่องจำนวนมาก โดยเฉพาะสีผึ้งรุ่นดังที่หลวงปู่รอดท่านทำขึ้นเองกับมือ โดยได้ผ่านพิธีสำคัญๆต่างๆมามากมายหลายพิธี ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้ที่ศรัทธาเป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้ที่วัดมีเหลือจำนวนไม่มากแล้ว

 

สำหรับพระรุ่นต่างๆที่หลวงปู่ได้ทำขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน ล้วนแล้วแต่เคยมีประสบการณ์จากที่ผู้ที่นำไปบูชา อย่างเช่น นายณัฐวัฒน์ สมบูรณ์เทอดธนา นายก อบต.สังขะ หนึ่งในคณะกรรมการวัดโคกกรม ศิษย์เอกของหลวงปู่รอด ก็เคยประสบเหตุด้วยตัวเองมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งรถยนต์ส่วนตัวได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกพ่วง จนเกิดไฟลุกท่วมรถทั้งคัน แต่ตนและภรรยากลับรอดปลอดภัยออกมาได้อย่างปาฎิหาริย์

 

โดยที่ตนและภรรยาต่างห้อยพระเครื่องของหลวงปู่รอดด้วยกันทั้งคู่ จึงเป็นที่มาของพระรุ่นดังชื่อ “รุ่น “รอดปลอดภัย” ในเวลาต่อมา ซึ่งก็จะมีเหรียญรูปหลวงปู่ครึ่งองค์ที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นรูปยันต์ และยังประดับด้วยตระกรุดอีก 2 เส้นบนสร้อยเชือกร่มด้วย ซึ่งต่อมาก็ได้จัดทำขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปแจกให้กับคนขับรถยนต์บนถนนเส้นทางหมายเลข 24 บริเวณอำเภอปราสาท จ.สุรินทร์ จำนวน 4,000 เส้น เพื่อจะได้เป็นการเตือนสติในการขับขี่ปลอดภัย จนโด่งดังเป็นข่าวของหลายสำนักข่าวมาแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน

สำหรับกระแสความนิยมพระเครื่องของหลวงปู่รอดนั้น นายณัฐวัฒน์ สมบูรณ์เทอดธนา นายก อบต.สังขะ ก็ได้เปิดเผยว่า สำหรับหลวงปู่รอดนั้น ท่านมีความเมตตาสูง พระทุกรุ่นที่หลวงปู่ได้สร้างมา ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตามก็ขอบอกว่าดีทุกรุ่น ซึ่งรุ่นที่ได้เกิดประสบการณ์ด้วยตนเองนั้นก็คือรุ่น “รอดปลอดภัย” และอีกรุ่นก็คือรุ่น “มหาเมตตาบารมี” ซึ่งในขณะนี้ก็ยังพอมีเหลือให้บูชาอยู่บ้าง

 

โดยในขณะนี้ทางวัดก็ได้เปิดให้บูชา เป็นพระที่หลวงปู่สร้างเอง ซึ่งหลายคนทราบดีว่า พระของหลวงปู่นั้นสร้างปาฎิหาริย์ค่อนข้างจะบ่อย ซึ่งหลายท่านที่ได้ห้อยตระกุดพระของหลวงปู่รอดในรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ แต่ว่าทุกคนรอดปลอดภัยหมด อย่างที่เป็นภาพข่าวรายงานออกทางสื่อหลายครั้งที่ผ่านมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รุ่น “มหาเมตตาบารมี” นั้น ต้องบอกเลยว่า เป็นพระที่มีพุทธคุณสูงมากรุ่นหนึ่งที่หลวงปู่ได้สร้างขี้นมา

และสำหรับพระ รุ่น “มหาเมตตาบารมี” ก็เพิ่งเป็นจะข่าวโด่งดังมาเมื่อไม่นานนี้ โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้ที่ตกเป็นข่าวดัง ซึ่งก็ได้มากราบสรีระสังขารของ “หลวงปู่รอด” ในวันนี้ด้วยก็คือ นายซิน กิเลน เป็นชาวอำเภอชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ โดยนายซิน กิเลน ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังว่า ในตอนนั้นตนได้ประกอบเตาเผาขยะขึ้นเองจากถังซีเมนต์ และในณะที่กำลังจุดไฟเพื่อทดลองเผาขยะ ถังที่ทำขึ้นเพื่อเป็นตาเผาขยะก็ได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างแรง เสียงดังสนั่นไปไกลทั้งหมู่บ้าน ร่างของตนถึงกับกระเด็นออกไปไกลถึง 2-3 เมตร แต่ปรากฎว่ามีเพียงแค่บาดแผลเล็กน้อยที่ขอบตาข้างขวาเท่านั้น

ทั้งๆที่เศษถังซีเมนต์และเศษเหล็ก แตกกระจายเกลื่อนบริเวณนั้น ซึ่งคนที่กำลังทำงานอยู่ในบริเวณนั้น ต่างตกใจวิ่งมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งต่างก็แปลกใจว่า ตนรอดมาได้อย่างไร ทำไมไม่ได้รับอันตรายอะไรเลยจากสภาพความเสียหายที่ได้มาพบเห็น ซึ่งก็พบว่าตนมีเพียงพระของหลวงปู่รอดห้อยอยู่ที่คอเพียง 1 องค์เท่านั้น ซึ่งก็คือเหรียญรุ่น “มหาเมตตาบารมี” เนื้อเงินลงยา

 

ตนจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระหลวงปู่รอดแน่นอน ที่ช่วยให้ตนรอดปลอดภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งในวันนี้ตนก็ได้มากราบสังขารของหลวงปู่ และร่วมทำบุญให้หลวงปู่ด้วย หลังจากทราบข่าวว่าท่านได้ละสังขารแล้ว

 

สำหรับการจัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลบรรจุสรีระสังขาร พระครูอาภัสร์ธรรมคุณ หรือ หลวงปู่รอด อาภัสสโร อดีตเจ้าคณะตำบลโคกกลาง อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกรม ที่มีขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 2565 ซึ่งจะมีพิธีบรรจุสรีระสังขารในโลงแก้ว ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 โดยจะเริ่มพิธีในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และจะมีพิธีบรรจุสรีระสังขาร ในเวลา 13.00 น. จากนั้นในวันที่ 26 พ.ย. 2565 เวลา 07.00 น. ก็จะมีพิธีทำบุญตักบาตร เป็นอันเสร็จพิธี

 

ด้าน ดร.พระอาจารย์เอกชัย ชยเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุวรรณวิจิตร และ ผอ.โรงเรียนวัดสุวรรณวิจิตร ซึ่งเป็นผู้ประสานงานในการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลบรรจุสรีระสังขาร พระครูอาภัสร์ธรรมคุณ หรือ หลวงปู่รอด อาภัสสโร อดีตเจ้าคณะตำบลโคกกลาง อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกรม ก็ได้กล่าวถึงความพร้อมของงาน ว่า สำหรับพิธีในวันที่ 25 พ.ย. นั้น

ทางเราก็ได้ประชุมกันว่าเราจะบรรจุศพของหลวงปู่ไว้ก่อน และหลังจากเสร็จพิธีก็จะได้ประชุมหารือกันอีกรอบหนึ่ง ซึ่งในวันสำคัญในวันที่ 25 นั้นก็ขอเจริญพระญาติโยม ศิษยานุศิษย์ ได้มาร่วมพิธีในช่วงเวลาเช้าและบ่ายตามกำหนดการ ซึ่งพิธีการก็จะมีทั้งสองช่วง สำหรับเตรียมการต้อนรับต่างๆนั้น ทางโรงทาน โรงอาหาร ก็มีคณะศิษย์แจ้งความจำนงค์มามากมาย และสถานที่ที่จะรับรองญาติโยมและคณะสงฆ์ ทางเราก็ได้จัดเตรียมอย่างเพียงพอ อย่างสมเกียรติของหลวงปู่ ก็ขอเจริญพรทุกท่านได้มาร่วมงานกันในวันดังกล่าวนี้ด้วย

ขณะที่ นายโรจนินท์ หิรัญโชคอนันต์ นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน ประธานกรรมการวัดโคกกรม กล่าวว่า ในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตนได้เข้าออกพบปะพูดคุยกับหลวงปู่อยู่เป็นประจำ บางทีมีเรื่องสำคัญหลวงปู่ก็จะโทรไปหา ซึ่งตามปณิธานของท่านที่ได้ให้กับผมไว้ก็คือ เรื่องการสร้างพระพุทธมหาเมตตาบารมี ปางประทานพร ซึ่งทีแรกก็จะสร้างอยู่ข้างบนอาคาร และก็มาเปลี่ยนเป็นลงมาสร้างข้างล่าง เป็นความสูง 19 เมตร แล้วก็จะบูรณะโบสถ์ให้อยู่ในสภาพเดิม ซึ่งตนก็จะสืบสานปณิธานของท่านต่อไป

โดยที่ตนได้คุยกับคณะกรรมการ และรักษาการเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ได้ประชุมกัน ซึ่งทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราจะทำตามปณิธานที่หลวงปู่ได้สั่งไว้ตั้งแต่ต้นที่เริ่มสร้างวัดนี้ โดยหลังจากที่เสร็จพิธีบรรจุสรีระสังขารของหลวงปู่แล้ว เราก็จะคุยกับคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีอยู่ 2 เรื่องคือ เรื่องการสร้างพระใหญ่ และการบูรณะโบสถ์ ตามที่หลวงปู่ได้ตั้งปณิธารไว้ ซึ่งตนคนเดียวก็ทำไม่ได้ พระคุณเจ้ากับคณะกรรมการก็ทำไม่ได้ ต้องอาศัยญาติโยมช่วยกันทำให้เจตนาของหลวงปู่ที่ได้คิดไว้เมื่อ 7-8 ปีที่แล้วให้สำเร็จด้วยกัน

ส่วนทางด้าน พระครูไพโรจน์ สารธรรม ซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดโคกกรม กล่าวว่า สำหรับงานในวันที่ 25 พ.ย. นั้น ชาวบ้าน ศิษยานุศิษย์ที่มาร่วมงาน ทางวัดก็จะมีของชำร่วยมอบให้เป็นที่ระลึกกันทุกคน ก็ขอเชิญชวนทุกท่าน ถ้าอยากจะได้ของดี ก็ขอให้มาในงานวันที่ 25 นี้กัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง