3คนผัวเมีย ก๊กเหล้าไม่สนเคอร์ฟิว เมาหนักพูดไม่รู้เรื่อง แทงดับคาถนน
วันที่ 28 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.อนุสรณ์ และมุสอ สารวัตร(สอบสวน)สภ.ปราณบุรี รับแจ้งมีเหตุชายถูกแทงได้รับบาดเจ็บ นอนอยู่บนถนนหน้าบ้าน ม.2 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.ปราณบุรี ,พ.ต.ท.สุนทร งามเหลือ รอง ผกก.ป.สภ.ปราณบุรี พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชัยมาลา สารวัตร สส.สภ.ปราณบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี ปรากฎว่าเมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่เพื่อรอให้ เจ้าหน้าที่ทีมพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุประมาณ 30 ปีเศษ สวมกางเกงยีนต์ขายาว ไม่สวมเสื้อ มีรอยสักสี ขนาดใหญ่อยู่ที่ซีกซ้ายของลำตัว ผมเกรียน ถูกของมีคมแทงเป็นแผลฉกรรจ์หลายแผล
โดยแผลสำคัญอยู่ที่บริเวณหัวใจ นอกจากนี้ยังมีรอยแผลที่ สะบักหลังซ้าย , นิ้วมือซ้าย3นิ้ว , คิ้วขวา , ปาก เสียเลือดมากทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ห่างเพียงไม่กี่เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สแมซ สีชมพู ทะเบียน 1กข4557ประจวบคีรีขันธ์ จอดอยู่ มีคราบเลือดบนเบาะ
เปิดดูใต้เบาะพบเสื้อคลุมแบบทหาร มีสิ่งของตกกระจัดกระจายไปทั่ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบมีดทำครัวเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 8 นิ้ว ตกอยู่ด้วย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจหารอยนิ้วมือแฝง
จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลปราณบุรี เพื่อให้แพทย์ได้ชันสูตรอีกครั้ง
นางธัญญวัลย์ คุ้มทิม เจ้าของบ้าน 178 ม.2 ต.วังก์พง เล่าว่า ตนเป็นเป็นเจ้าของบ้านจุดที่พบศพผู้เสียชีวิต ซึ่งบ้านหลังนี้ทำเป็นโรงเก็บอุปกรณ์ก่อสร้าง และมีคนงานชายหญิง 2สามีภรรยาพักอาศัยอยู่
ช่วงเวลาเกือบ 4 ทุ่มตนกลับมาดูของ ปรากฎว่าเจอคนเสียชีวิต ตอนแรกนึกว่าแค่เมาหลับอยู่กลางถนน ซึ่งตนไม่รู้จักว่าเป็นใครไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน กระทั่งเห็นผิดสังเกตุว่าอาจจะเสียชีวิตจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว ขณะที่คนงาน2ผัวเมียไม่รู้ว่าหายไปไหน ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สแมซ ไม่รู้ว่าเป็นรถของใคร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัว นางอ้อย จานมี อายุ 42 ปี ในสภาพเมาสุราพูดจาวกวนฟังไม่รู้ความ อยู่ห่างออกไปจากที่เกิดเหตุไม่กี่ร้อยเมตร ซึ่งเจ้าของบ้านยืนยันคือ หนึ่งในคนงานที่หายตัวไป โดยนางอ้อย ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจับใจความได้ว่า สามีใหม่ก่อเหตุแทงสามีเก่า ที่เพิ่งจะพ้นโทษจากเรือนจำมาได้ไม่นาน
ขณะที่พยานคนหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงหัวค่ำได้นั่งดื่มกัน 4 คน คือนางอ้อย นายสมปอง จันทร์ประสิทธิ์ อายุ 42 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ สามีใหม่นางอ้อย และสามีเก่าที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้ขี่รถจักรยานยนต์คันสีชมพูมาหาและขอคืนดีกับนางอ้อย จึงได้นั่งดื่มเพื่อรอเคลียร์ปัญหากัน
โดยพยานดื่มไปเล็กน้อยก็ขอตัวกลับที่พัก กระทั่งมาทราบว่า เกิดเหตุแทงกันเสียชีวิตดังกล่าว คาดว่าจะเคลียร์กันไม่ลงตัวโดยอาจชกต่อยต่อสู้กัน สุดท้ายนายสมปองสามีใหม่ ใช้อาวุธมีดแทงสามีเก่าเสียชีวิต
ต่อมาระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเคลียร์ที่เกิดเหตุและกำลังจะกลับนั้น ได้สังเกตุเห็นความผิดปกติที่บริเวณใต้โต๊ะตัวหนึ่งภายในบ้านดังกล่าว คล้ายมีคนซ่อนตัวอยู่จึงแกล้งร้องเรียกหาว่าเป็นใคร จากนั้นได้เข้าไปตระครุบตัวได้
ที่แท้คือ นายสมปอง จันทร์ประสิทธิ์ สามีใหม่นางอ้อย ซึ่งอยู่ในสภาพเมาสุราพูดจาไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน โดยรับเบื้องต้นว่า ต่อยกับผู้ตาย เมื่อเห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเกิดความกลัวจึงไปแอบอยู่ใต้โต๊ะ ไม่กล้าออกมา ซึ่งแอบอยู่ใต้โต๊ะนานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว จึงควบคุมตัวกลับมาที่ สภ.ปราณบุรี และจะต้องรอให้หายเมาสุราเสียก่อนจึงจะสามารถสอบปากคำเพิ่มเติมได้
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุรายนี้จะถูกตั้งข้อหาหนัก 2 ข้อหาคือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และมั่วสุมดื่มสุรา ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งข้อหาฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินนี้ อาจรวมถึงนางอ้อย ผู้เป็นภรรยาด้วย