เปิดเหตุผล ทำไม? “จับ ปรับหนัก” ไม่ใส่หมวกกันน๊อก อันตรายต่อชีวิต - ภาระหนักเศรษฐกิจ

เปิดเหตุผล ทำไม? “จับ ปรับหนัก” ไม่ใส่หมวกกันน๊อก
ในทุกๆ 2 ชั่วโมงของแต่ละวัน ประเทศไทยต้องสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถึง 3 ราย—ตัวเลขที่ชวนสะเทือนใจและไม่ควรถูกมองข้ามอีกต่อไป
ความจริงที่น่าตกใจจากข้อมูลของกรมควบคุมโรค ระบุว่า ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ระหว่างปี 2563–2567 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงถึง 87,142 ราย เฉลี่ยปีละกว่า 17,000 ราย และกว่า 80% ของตัวเลขนี้ มีสาเหตุจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์
ต้นทุนชีวิต และ งบประมาณจำนวนมากทางเศรษฐกิจ
ข้อมูลจากระบบ Health Data Center (HDC) เผยให้เห็นอีกด้านของโศกนาฏกรรม เมื่อในปี 2565 มีผู้เข้ารับการรักษาจากอุบัติเหตุทางถนนกว่า 1.06 ล้านราย โดยราว 80% เป็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ค่ารักษาพยาบาลรวมทะลุ 7.8 พันล้านบาท/ปี กลายเป็นภาระที่หนักหน่วงทั้งในเชิงเศรษฐกิจและการบริหารทรัพยากรทางการแพทย์
ไม่สวมหมวกนิรภัย = เสี่ยงบาดเจ็บรุนแรงเพิ่มขึ้น 8 เท่า
ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บของกรมควบคุมโรคชี้ว่า ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์กว่า 84% ไม่สวมหมวกนิรภัย และสถิติก็ชัดเจนว่า ผู้ที่ไม่สวมหมวกมีความเสี่ยงบาดเจ็บที่ศีรษะมากกว่าผู้ที่สวมถึง 8 เท่า
โดยเฉพาะกับเด็ก ผู้ปกครองควรเลือกหมวกนิรภัยขนาดเหมาะสม มีสายรัดแน่นหนา และควบคุมความเร็วขณะขับขี่ให้อยู่ในช่วง 30–50 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
จากการรณรงค์สู่การบังคับใช้กฎหมาย
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมืออย่างจริงจัง ทั้งการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่กันเพื่อยกระดับจิตสำนึกด้านความปลอดภัยของประชาชน
หมวกนิรภัยที่มีมาตรฐาน มอก. 369-2557 โดยเฉพาะแบบเต็มใบที่ป้องกันได้ถึงคาง เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ควรมองข้าม และหากหมวกมีความชำรุดหรือเคยผ่านแรงกระแทกมาแล้ว ควรเลิกใช้งานทันที
สวมหมวกนิรภัยไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่คือการช่วยชีวิตตัวเอง และลดภาระของระบบสาธารณสุข ทั้งในแง่สถิติ ความเจ็บปวด และงบประมาณ เราทุกคนมีส่วนในการลดอุบัติเหตุที่ไม่จำเป็นต้องเกิด
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
