OR "ทรีนีตี้" คาดกำไร Q2/66 อ่อนตัว ตามค่าการตลาด แนะซื้อ ราคาหุ้นมี upside
บล.ทรีนีตี้ ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR โดยคาดการณ์ว่ากำไรในงวดไตรมาส 2/66 จะอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ลดลง 62% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 16% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรที่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากครึ่งปีแรกค่าการตลาดสูงผิดปกติ จากความผันผวนของราคาน้ำมันจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน และลดลงจากไตรมาสก่อน จากค่าการตลาดที่อ่อนตัวลง
โดยคาดปริมาณขายในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 6.8 พันล้านลิตร เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 1% จากไตรมาสก่อน โดยปริมาณค้าปลีกเพิ่มขึ้น ในขณะที่ Commercial ลดลงจากกลุ่มโรงไฟฟ้ากลับไปใช้ก๊าซหลังจากที่ราคาก๊าซปรับลดลง, คาดอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับลดลงเหลือ 0.9 บาทต่อลิตร จากไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 1.6 บาทต่อลิตร และไตรมาส 1/66 ที่ 1 บาทต่อลิตร จากมาร์จิ้น ของ Commercial ลดลง
นอกจากนี้คาดว่าธุรกิจ Lifestyle (Non-Oil) มี EBITDA ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสก่อน ซึ่งคาดว่าจะมี EBITDA Margin ที่ 26% จากไตรมาส 2/65 ที่ 27% และไตรมาส 1/66 ที่ 24% ซึ่งบริษัทพยายามควบคุมในเรื่องของต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/66 ของ OR คาดว่าปริมาณขายน้ำมันจะอ่อนตัวตามผลของฤดูกาลที่เป็นช่วงหน้าฝน และไตรมาส 4/66 อาจจะมีค่าใช้จ่ายปลายปีที่เพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิจัยมีการปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 ลงเหลือ 1.1 และ 1.2หมื่นล้านบาทตามลำดับ เป็นการปรับลดสมมติฐานปริมาณขายและค่าการตลาดลง
**แนะนำซื้อ
ฝ่ายวิจัยทรีนีตี้ แนะนำซื้อหุ้น OR แต่ได้ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 29.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งราคาหุ้นปิดวานนี้ ยังมี upside จากราคาเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งราคาเป้าหมายดังกล่าว มาจาก 2 ส่วนคือ จากมูลค่าธุรกิจปัจจุบัน 18 บาทต่อหุ้น และจากมูลค่าปัจจุบันของเงิน IPO ที่ไปลงทุนในอนาคตด้วยอัตราคิดลด 11.50 บาทต่อหุ้น
ราคาหุ้น OR เช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 21.50 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 0.46% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 196.56 ล้านบาท