รีเซต

โยมพ่อสุดช็อก ไฟไหม้วัด เห็นพระลูกชายช่วยดับเพลิง เจออีกทีมรณภาพกับหลวงตา

โยมพ่อสุดช็อก ไฟไหม้วัด เห็นพระลูกชายช่วยดับเพลิง เจออีกทีมรณภาพกับหลวงตา
ข่าวสด
24 มีนาคม 2563 ( 21:49 )
72
โยมพ่อสุดช็อก ไฟไหม้วัด เห็นพระลูกชายช่วยดับเพลิง เจออีกทีมรณภาพกับหลวงตา

โยมพ่อสุดช็อก ไฟไหม้วัด เห็นพระลูกชายยังช่วยสาดน้ำดับเพลิง เจออีกทีมรณภาพกับหลวงตาในกุฏิ ถูกไฟคลอก คาดวิ่งไปช่วยหลวงตาที่ชราภาพ

ไฟไหม้วัด วันที่ 24 มี.ค. พ.ต.ท.หมัดอุเส็น เหมาะสนิ สารวัตร (สอบสวน) สภ.แสวงหา จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระและกำลังลุกลามขยายวงกว้าง เหตุเกิดบริเวณภายในวัดแสวงหา หมู่ 5 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาล, อบต.ทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง กว่า 20 คัน พร้อมอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู โดยมี นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พล.ต.ต.สังวาลย์ ฤกษ์ศรีลักษณ์ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง นายวรัตน์ มาประณีต นายอำเภอแสวงหา เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิสูง 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ พบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และกำลังจะลุกลามไปยังศาลาหลังใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิงอย่างโกลาหล โดยมีชาวบ้าน พระ และเณร ต่างช่วยกันขนย้ายพระพุทธรูปและของมีค่าหนีไฟ นอกจากนี้ยังมีเสียงระเบิดอยู่เป็นระยะ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ ทางด้านนายอำเภอ สั่งให้เจ้าหน้าที่ประกาศให้ชาวบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องให้เดินทางกลับบ้าน เนื่องจากในขณะนี้มีเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด อาจจะทำให้มีการกระจายเชื้อลุกลามไปติดผู้อื่นได้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

จากการตรวจสอบพบพระมรณภาพอยู่ในกุฏิด้านหลัง 2 รูป ถูกไฟคลอกเป็นตอตะโก ทราบชื่อคือ พระสมุภัชชา เชื้อแดง อายุ 33 ปี พระลูกวัด มรณภาพอยู่ใกล้กับพระพุทธรูปในห้องชั้นล่าง ส่วนอีกรายทราบชื่อคือ พระสัมฤทธิ์ อิทธิเตโช อายุ 78 ปี พระลูกวัด มรณภาพอยู่ใต้ซากอยู่ในกุฏิติดกัน ด้าน นายฟ้อน เชื้อแดง อายุ 66 ปี พ่อของ พระสมุภัชชา เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ยังเห็นพระลูกชายนำถังดับเพลิงออกไปช่วยดับเพลิง จากนั้นได้วิ่งเข้าไปในกุฏิ คาดว่าน่าจะเข้าไปเก็บของและไปช่วย พระสัมฤทธิ์ ที่ชราภาพมากแล้ว แต่ออกมาไม่ทันจึงถูกไฟคลอกจนมรณภาพ

จากการสอบถาม พระสมุถวิล ปิยะธโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เล่าให้ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากพระและเณรมาช่วยกันสร้างศาลา จนมีพระที่อยู่ในกุฏิตะโกนบอกว่าเพลิงไหม้ เมื่อวิ่งไปดูก็พบว่าเพลิงได้เริ่มลุกลามมาจากกุฏิทางด้านใต้ ที่พระทั้ง 2 รูปมรณภาพ แล้วลุกลามมาทางสายไฟจนไหม้กุฏิพระและเณรจนหมด ซึ่งศาลาใหญ่บางส่วนได้รับความเสียหาย

ด้าน นายวรัตน์ มาประณีต นายอำเภอแสวงหา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าต้นเพลิงเกิดจากกุฏิทางทิศใต้ด้านหลังวัด ประกอบกับในช่วงนี้มีลมพัดกระโชกแรง ทำให้เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว และการเข้าควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างลำบาก จึงลุกไหม้กุฏิพระและเณรที่อยู่โดยรอบจนหมด แล้วลุกลามไปไหม้ศาลใหญ่ที่อยู่ตรงกลางเก็บทรัพย์สินที่มีค่าไว้ได้รับความเสียหายบางส่วน

ซึ่งสาเหตุและค่าเสียหายทั้งหมดยังไม่สามารถประเมินได้ คงต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบว่าสาเหตุว่าเกิดมาจากสาเหตุใด เบื้องต้นตามกุฏิพระและเณรไม่น่าจะมีทรัพย์สินที่มีค่ามากนัก จะมีทรัพย์สินที่มีค่าที่เก็บอยู่ในศาลาใหญ่ คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามทางอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง