รีเซต

'CEYE' นับหนึ่งไฟลิ่ง จ่อขายไอพีโอ 70 ล้านหุ้น เทรด mai

'CEYE' นับหนึ่งไฟลิ่ง จ่อขายไอพีโอ 70 ล้านหุ้น เทรด mai
ทันหุ้น
11 มีนาคม 2565 ( 12:47 )
90

 

#CEYE #ทันหุ้น - “ตาชำนิ หรือ CEYE” หุ้นน้องใหม่ IPO ดีกรีผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อโฆษณาระดับ บริษัท บิ๊กเนม ทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ เชื่อมั่นรวมทั้งเป็นเจ้าของธุรกิจสตูดิโอไม้ยืนต้นและสื่อออนไลน์ ที่สนับสนุนเรื่องความเท่าเทียม และความหลากหลายทางเพศอันดับต้นๆในชื่อ  Spectrum กางแผนโตครบวงจรล่าสุดสำนักงานก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่งเดินหน้าระดมทุน70ล้านหุ้นอัพฐานธุรกิจสู่การเติบโตครั้งใหม่ เตรียมโรดโชว์ให้ข้อมูลต่อนักลงทุน วางแผนเทรด mai ไตรมาส 2/2565

 

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วันพาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง) ของ CEYE ที่ได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้นคิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของ บริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai) ในหมวดธุรกิจบริการ(service) ในช่วงไตรมาส 2/2565

 

ปัจจุบัน CEYE มีทุนจดทะเบียน 135,000,000 บาท ทุนที่เรียกชำระแล้ว 100,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบธุรกิจให้บริการผลิตภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวสำหรับสื่อโฆษณาสื่อโทรทัศน์และภาพยนตร์ และบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้องโดยมีบริษัทย่อยคือบริษัทไม้ยืนต้นจำกัดให้บริการเช่าสตูดิโอโรงถ่ายภาพยนตร์โฆษณาและรายการโทรทัศน์ โดยมีกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทั้งลูกค้าเอเจนซีโฆษณา (Advertising Agency) และเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

 

CEYE มีจุดเด่นจากทีมผู้บริหารและผู้ก่อตั้งมีชื่อเสียงและประสบการณ์กว่า30ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการโฆษณาไม่หยุดนิ่งในการมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพของการให้บริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาวรวมถึงกลยุทธ์ในการต่อยอดสื่อโฆษณาที่บริษัทมีความแข่งแกร่งไปยังแพลตฟอร์มหรือช่องทางใหม่ๆรับเทรนด์ผู้บริโภคและเข้าสู่ยุคดิจิทัลโดยชูความครีเอทีฟและคุณภาพงานเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ มีฐานลูกค้าเป็นองค์กรมีชื่อเสียง ถึงแม้ภายใต้สถานการณ์โควิดแต่เทรนด์สื่อโฆษณายังเป็นที่น่าจับตามอง

 

อย่างไรก็ดีมองว่าสถานการณ์โควิดในปี2564ที่ผ่านมาบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมาตรการการจำกัดการรวมตัวกัน อย่างไรก็ดี CEYE มีการปรับตัวให้เข้ากับฐานวิถีชีวิตใหม่ (New normal) มากขึ้น จึงทำให้กลุ่มบริษัทมีปริมาณงานเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการ Lockdown สะท้อนจากผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายของปี2564โดย CEYE เริ่มเติบโตในอัตราเร่งและมีรายได้รวมไตรมาส 4/2564เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564ถึง3/2564จึงคาดว่าแนวโน้มในปี2565เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศที่สำคัญตามความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง CEYE จึงพร้อมนำเงินระดมทุนเสริมโอกาสการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันบริษัทฯเตรียมนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน(โรดโชว์) ในช่วงปลายเดือนมีนาคม2565

 

นางสาวสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE เปิดเผยว่า แผนการเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายบริการให้ครบวงจร เป็น One stop services creative and production solution และลงทุนในส่วนขั้นตอนภายหลังการผลิต ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และโปรดักชันแพลตฟอร์มเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมครีเอทีฟ และการให้บริการด้านผลิตคอนเทนต์ ให้มีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของการตลาดในยุคต่อไป และความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ แบบไร้ขีดจำกัด โดยแบ่งประเภทธุรกิจเป็น 5 กลุ่มหลักได้แก่ (1) บริการผลิตภาพนิ่งสำหรับสื่อโฆษณา (2) บริการผลิตภาพเคลื่อนไหวสำหรับสื่อโฆษณา (3) บริการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ (4) บริการให้เช่าสตูดิโอและ (5) บริการอื่นๆได้แก่ (5.1) ผลิตสื่อออนไลน์ 5 สื่อประกอบด้วย Spectrum, Shifter, Love Like Laugh, Myanmar Good Friend และ Landmark ผ่านช่องทาง Facebook, Youtube, Instagram, Website, Twitter และ TikTok และ (5.2)ให้บริการบริหารสื่อออนไลน์ให้แก่ลูกค้า เช่น Facebook

 

วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้ลงทุนโครงการในอนาคตรองรับโอกาสในการขยายไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความสามารถในการเติบโตและสร้างผลตอบแทนสูงสุดต่อผู้ถือหุ้น โดยนำไปใช้ลงทุนโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่พื้นที่ประมาณ1,000ตารางเมตรและโครงการลงทุนในส่วนอุปกรณ์การผลิตโดยลงทุนในอุปกรณ์การถ่ายภาพถ่ายวีดีโอนอกจากนี้นำไปชำระคืนเงินกู้ให้แก่สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน

 

สำหรับภาพรวมผลประกอบการงวดประจำปี 2564 มีรายได้รวม 272.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17.53% และมีกำไรสุทธิ 28.45 ล้านบาท เติบโต 101.89% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากมีรายได้เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการผลิตภาพนิ่ง 50.07% ผลิตภาพเคลื่อนไหว 26.73% รายได้จากการให้บริการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ 11.50% รายได้จากการให้เช่าสตูดิโอ 3.82% และรายได้จากการให้บริการอื่นๆ ได้แก่บริหารสื่อออนไลน์ (Social Media Management) และผลิตสื่อออนไลน์(Online Media) อยู่ที่ 5.50% ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ ที่น่าจับตามอง เพราะกำลังจะต่อยอดไปสู่รูปแบบบริการ และกิจกรรมใหม่ๆ ที่บริษัทมั่นใจว่าจะเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่จะสามารถสร้างความเติบโตได้ในระยะยาว และมีรายได้อื่นอีก 2.38%

 

นอกจากนี้ในไตรมาส 4/2564 มาตรการผ่อนคลายของรัฐบาลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 ถึงไตรมาส 3/2564 ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown และมาตรการการจำกัดการรวมกลุ่มส่งผลให้ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2564 ของ CEYE ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก โดยมีรายได้รวม 87.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.95% จากไตรมาสก่อน และกำไรสุทธิ 15.30 ล้านบาท เติบโตขึ้น 1,430.00% จากไตรมาสก่อน ดังนั้นแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มบริษัทมีทิศทางสดใสมากขึ้นสอดรับกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในปี2565อีกทั้ง การผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และมาตรการการจำกัดการรวมกลุ่มทำให้กระบวนการผลิตสื่อโฆษณาสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง