สงขลาปรับแผนคุมโรคในโรงงาน หลังติดอันดับ 5 ของประเทศ เร่งวางมาตรการควบคุม

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมนี้ว่า การติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสงขลา ในห้วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น พบว่ามีการระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมและระบาดในชุมชนเป็นหลัก ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 12,000 คนแล้ว

ล่าสุด นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่ามีการติดเชื้อในโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ที่มีการติดเชื้อแล้ว 26 แห่ง พบผู้ติดเชื้อ กว่า 2,000 คน โดยทั้ง 26 แห่งมีมาตรการหลากหลาย มีที่ปิดโรงงานบางส่วนและปิดทั้งหมดรวม 6 แห่ง ใช้มาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล 9 แห่ง ที่เหลือติดเชื้อเล็กน้อยได้ทำการคัดแยกกลุ่มเสี่ยง โรงงานแต่ละแห่งเมื่อเข้าสู่มาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีลแล้ว จะให้โรงงานจัดสถานที่ให้พนักงานอาศัยอยู่ หรือที่เรียกกันว่าแฟคทอรี่ ควอรันทีน ( Factory Quarantine หรือ FQ ) โดยให้นำพนักงานที่มั่นใจว่าปลอดภัยมาอยู่ เพื่อไม่ให้สัมผัสกับคนภายในและสามารถทำงานได้

อย่างไรก็ตามจากรายงานของ ศบค.พบว่า การติดเชื้อในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดสงขลานั้นอยู่ในอันดับที่ 5 ของประเทศ โดย ผวจ.สงขลา ระบุว่าแนวทางการดูแลหลังจากนี้ก็จะต้องเข้มข้นมากขึ้น โดยในโรงงานใดที่พบผู้ป่วยติดเชื้อก็จะเข้าสู่ระบบ บับเบิ้ลแอนด์ซีล ทันที โดยไม่ต้องรอสัดส่วนผู้ป่วย ในอัตราที่เคยกำหนดไว้ เพราะจะทำให้มีการแพร่ระบาด ติดเชื้อลุกลามอย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้น ยังให้ทุกโรงงานจัดหาสถานที่ ทำ แฟคทอรี่ ควอรันทีน (Factory Quarantine หรือ FQ ) เพื่อให้พนักงานกักตัวอยู่ภายในสถานที่ที่กำหนด เดินทางไปกลับเฉพาะโรงงานกับสถานที่กักตัว เพื่อลดความเสี่ยง แต่หากโรงงานใดไม่มี FQ พนักงานที่ไปกลับบ้าน จะต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งทำให้ต้องหยุดดำเนินการทันที