เปิดกลยุทธ์ทำกำไรทองคำ-กระจายความเสี่ยงสู่ตลาดต่างประเทศ

คุณนิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ สายงานการลงทุน QIQP บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 17 ตุลาคม 2568 แนะกลยุทธ์การลงทุนในสภาวะที่ราคาทองคำพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ชี้ถึงเวลาปิดสถานะทำกำไรในโกลด์ฟิวเจอร์ส พร้อมเตือนนักลงทุนที่ยังติดกับดักในตลาดหุ้นไทย
คุณนิพนธ์กล่าวว่า สำหรับนักลงทุนที่เปิดสถานะซื้อ (Long) ในโกลด์ฟิวเจอร์สตามกลยุทธ์ที่แนะนำมาตั้งแต่ต้นเทรนด์ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปิดสถานะทั้งหมดเพื่อล็อคกำไร แม้ว่าราคาทองคำอาจจะปรับตัวขึ้นไปถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐก็ตาม
"กลยุทธ์ของเราคือ เมื่อราคาอยู่ห่างจากเส้นแนวรับมากเกินไป เช่น แนวรับ 3,800 และ 4,137 ดอลลาร์ มันคือความเสี่ยงที่จะเกิดการปรับฐานรุนแรงได้ทุกเมื่อ เราทำกำไรมาแล้วกว่า 1,150 เหรียญต่อสัญญา (ประมาณ 350,000 บาท) ซึ่งเป็นจุดที่น่าพอใจตามระบบของเรา เราจึงต้องจบ แม้ตลาดจะยังไม่จบก็ตาม"
การตัดสินใจนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความโลภและทำตามระบบที่วางไว้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้นักลงทุนประสบความสำเร็จในระยะยาว
อย่างไรก็ดี คุณนิพนธ์ได้อธิบายกลยุทธ์การ "จบ" นี้ใช้สำหรับ "โกลด์ฟิวเจอร์ส" ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและมี Leverage เท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับ "ทองคำแท่ง" ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว
"ต้องแยกทองให้ออก คนละประเภทกัน โกลด์ฟิวเจอร์สถ้าราคาปรับฐานลงแรงแค่ 100-200 เหรียญ พอร์ตอาจเสียหายหนักได้ แต่ทองคำแท่งคือการซื้อเพื่อสะสมความมั่งคั่ง เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและวิกฤตการณ์ต่างๆ ผมแนะนำให้นำกำไรส่วนหนึ่งที่ได้จากฟิวเจอร์สมาทยอยซื้อทองคำแท่งเก็บไว้ให้ลูกหลาน"
Bitcoin สัญญาณเตือนมาแล้ว - หุ้นไทยยังไร้อนาคต
สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin คุณนิพนธ์มองว่า แม้จะให้ผลตอบแทนสูงถึง 9 เท่าในช่วงที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเริ่มปรากฏสัญญาณเตือนทางเทคนิคแล้ว "กลยุทธ์ของเราสำหรับ Bitcoin คือ ถ้าหลุดแนวรับสำคัญที่ 100,000 ดอลลาร์ เราก็ต้องจบก่อนเช่นกัน เพื่อรักษากำไรที่ทำมาได้"
ส่วนมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย คุณนิพนธ์ยังคงมีทัศนะเชิงลบ โดยระบุว่านักลงทุนที่ยังคงติดอยู่กับหุ้นไทยถือเป็นการเสียโอกาสมานานหลายปี และคาดว่าจะยังไม่เห็นอนาคตที่สดใสในเร็วๆ นี้
"ทางแก้ไม่ใช่การพยายามแก้พอร์ตในหุ้นไทย แต่คือการเปลี่ยนมุมมอง ต้องกล้าที่จะขายหุ้นไทยออกไปบ้าง แล้วนำเงินไปศึกษาและลงทุนในตลาดต่างประเทศที่มีอนาคต เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีควอนตัม, ไบโอเทค หรือพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงกว่ามาก"
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
