รีเซต

ยุบสภาฯ ฉับพลัน 106 ร่าง กม. ตกทันที นโยบายใหญ่เสี่ยงชะงัก

ยุบสภาฯ ฉับพลัน 106 ร่าง กม. ตกทันที นโยบายใหญ่เสี่ยงชะงัก
TNN ช่อง16
12 ธันวาคม 2568 ( 12:07 )
9

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ยุบสภาผู้แทนราษฎร ตามที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร


การยุบสภาฯ ครั้งนี้ ส่งผลให้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หรือ ร่าง พ.ร.บ. ที่กำลังพิจารณาอยู่ ขณะนี้ ที่รัฐสภายังไม่ได้ให้ความเห็นชอบทั้งหมด หรือให้ความเห็นชอบแล้ว แต่แต่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วย เป็นอันต้องตกไป ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 147 


ข้อมูลจาก iLaw ระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมและร่างพ.ร.บ.ที่กำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณา มีอย่างน้อย 106 ฉบับ ที่ตกไปทันที แบ่งเป็น 


  1. การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา อย่างน้อย 18 ฉบับ

  2. การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ในสภาผู้แทนราษฎร อย่างน้อย 72 ฉบับ

  3. การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ในวุฒิสภา อย่างน้อย 15 ฉบับ

  4. ร่าง พ.ร.บ.ที่คณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาเสร็จ อย่างน้อย 1 ฉบับ


ยกตัวอย่าง ร่าง พ.ร.บ. ที่ต้องตกไป และเราอาจคุ้นหูดี ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่ราษฎร, ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด หรือจะเป็นร่าง พ.ร.บ. ธรรมนูณศาลทหาร เป็นต้น 

แม้ร่าง พ.ร.บ.เหล่านี้ตกไปด้วยเหตุของการยุบสภา แต่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 147 วรรคสองเปิดช่องให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งมีสิทธิร้องขอให้รัฐสภานำร่าง พ.ร.บ. เหล่านั้นกลับมาพิจารณาต่อได้ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกหลังการเลือกตั้งทั่วไป


อ่านข้อมูลเต็ม และรายชื่อ ร่าง พ.ร.บ. ทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://www.ilaw.or.th/articles/56098


สำหรับ ร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอโดยภาคประชาชน หาก ครม. ชุดใหม่ ไม่นำมาร้องขอให้มีการพิจารณาภายใน 60 วัน ผู้แทนเข้าชื่อเสนอกฎหมายสามารถทำ หนังสือยืนยัน ต่อประธานสภาฯ เพื่อให้พิจารณาร่างดังกล่าวต่อไป โดยจะถือว่า เป็นการเข้าชื่อเสนอกฎหมายใหม่และต้องยืนยันภายใน 120 วันนับแต่วันที่เรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป 

ส่วนนโยบายต่าง ๆ เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 อาจจะต้องหยุดไว้ก่อน เพราะด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายเลือกตั้งไม่สามารถที่จะทำได้


ด้าน บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เผยว่า โครงการที่ทาง ครม. เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ จำเป็นต้องหารือกับ กกต. ว่า จะขออนุมัติให้ทำได้หรือไม่ 


“เรื่องบางเรื่อง ที่ ครม. พูดไว้ก่อนที่จะยุบสภา เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า จะอนุมัติให้ทำได้หรือไม่ และเรื่องการประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ เพื่อช่วยฟื้นฟูหาดใหญ่ และบอกกล่าวว่า หาดใหญ่กลับมาเป็นปกติแล้ว เพื่อส่งสัญญาณถึงนักท่องเที่ยวมาเลเซียให้กลับมาเที่ยวได้ช่วงปีใหม่ที่จะเข้ามามากที่สุด ตรงนี้ไม่ใช่การหาเสียง แต่เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้กับพี่น้องชาวสงขลาและหาดใหญ่ใน ครม. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่าจะไปจัดประชุม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของใหม่ ก็ต้องทำได้” บวรศักดิ์ กล่าว


บวรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า หากจะต้องทำ มี 2 เรื่องที่ต้องขอทาง กกต. คือ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและการใช้งบประมาณ งบกลางรายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น นอกนั้นมีอำนาจเหมือนเดิมทุกประการ รวมถึงเรื่องความมั่นคง และวันนี้ ยังสามารถประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้ เช่นเดียวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังมีเหมือนเดิม และการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยก็ยังเหมือนเดิม แต่ถ้าต้องใช้งบกลางเพิ่ม จะต้องขอ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ ย้ำว่าคำว่า “รักษาการ” เป็นคำทางวิชาการ ไม่ต้องกังวลอะไร โดยรัฐบาลจะนัดประชุมกับกกต. ในวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อหารือถึงเรื่องเลือกตั้ง


สำหรับการเคาะวันเลือกตั้งทั่วไป บวรศักดิ์ เผยว่า รัฐบาลจะนัดประชุมกับ กกต. 15 ธันวาคมนี้ เพื่อหารือถึงเรื่องเลือกตั้ง ครม.ที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่เข้ารับหน้าที่หลังการเลือกตั้งทั่วไป โดยมีอำนาจเหมือนเดิมทุกอย่าง


ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการประกาศยุบสภาฯ จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไป ภายใน 45-60 วัน โดยคาดว่า วันเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 25 มกราคม - 9 กุมภาพันธ์ 2569 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง: 


https://www.ilaw.or.th/articles/56098

https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/33/iid/453580

https://www.tnnthailand.com/politics/219846/

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง