รีเซต

ส.ส.ส.เปิดเวทีปอเนาะฯ ภาคใต้ หวั่นปม กัญชาในสถานศึกษา ย้ำ ต้องห้ามตามอิสลาม

ส.ส.ส.เปิดเวทีปอเนาะฯ ภาคใต้ หวั่นปม กัญชาในสถานศึกษา ย้ำ ต้องห้ามตามอิสลาม
มติชน
18 มิถุนายน 2565 ( 23:21 )
80

ส.ส.ส. เปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงปอเนาะ 14 จังหวัดภาคใต้ปลอดบุหรี่ ขณะที่สถานศึกษาเตรียมพร้อมให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องกัญชากับนักเรียนและรณรงค์ให้เป็นโรงเรียนปลอดสิ่งเสพติดทุกชนิด และ รัฐต้องออกกฎหมายให้เท่าทัน ออกให้เร็วที่สุดให้กลุ่มคนมีส่วนร่วมสูงสุด

 

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 มิถุนายน ที่ห้องภัชรัตน์ โรงแรมวัฒนาพาร์ค จ.ตรัง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (ส.ส.ส) และ มูลนิธิคนเห็นคน เปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงปอเนาะภาคใต้ปลอดบุหรี่ ตามโครงการ พหุวัฒนธรรมหนุนเสริมศักยภาพชุมชน ลดปัจจัยเสี่ยงเพื่อสุขภาพคนใต้ “ปอเนาะ ปลอดบุหรี่” ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ มีโรงเรียนต้นแบบ อาทิ โรงเรียนประทีปศาสน์ โรงเรียนปอเนาะสันติวิทยา โรงเรียนดีนูลอิสลาม โรงเรียนรุ่งโรจน์วิทยา โรงเรียนสันติธรรมวิทยามูลนิธิ นำบุคลากรของสถานศึกษามาร่วมกิจกรรมประมาณ 100 คน

 

นางฮูวัยย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง ผู้ประสานงานโครงการปอเนาะปลอดบุหรี่ 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมพหุวัฒนธรรมประกอบไปด้วย พี่น้องชาวพุทธ คริสต์ อิสลาม โดยเรื่องยาเสพติด เช่น บุหรี่ โรงเรียนบางโรงก็มีปัญหาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ในเรื่องของกัญชา ยังไม่มีการใช้ในโรงเรียนปอเนาะ แต่เพื่อให้ทันสถานการณ์การปลดล็อกกัญชา ทางโรงเรียนได้มีการพูดคุยควบคุมไปพร้อมๆ กับยาเสพติดชนิดอื่นๆ แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับกฎหมายว่าอะไรได้ อะไรไม่ได้ เราเน้นในการป้องกัน

 

ทั้งนี้ ในส่วนของกัญชา ก็ผิดหลักศาสนาอิสลามเช่นเดียวกับสารมีพิษชนิดต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ถือว่าเป็นของต้องห้าม เบื้องต้นทางสถานศึกษาจะออกกฎแบบเป็นกลาง แต่จะให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดยาเสพติดทุกชนิด

 

ขณะที่ นายสัตวแพทย์ปกรณ์ สุวรรณประภา ประธานมูลนิธิคนเห็นคน กล่าวว่า การประกาศปลดล็อกกัญชานั้น ตนมองว่าเป็นความท้าทายกับสังคม หากร่างกายเราแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันที่ดี อะไรที่ไม่ดีเข้ามาก็ไม่เกิดโทษกับเรา เราสามารถใช้สิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ได้

 

ในส่วนทางด้านกฎหมาย ตนมองว่ารัฐบาลคงคิดแล้วว่ากฎหมายอะไรที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด รัฐบาลคงอยากให้ประชาชนทุกกลุ่มคนเข้ามามีประโยชน์ส่วนร่วม ทั้งนี้ อะไรที่เป็นพิษเป็นภัยเราต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะเด็กๆ และเยาวชนไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ หรือให้รู้เท่าทันกับสิ่งเหล่านี้

 

“การปลดล็อกกัญชาเป็นของรัฐบาล แต่ ส.ส.ส.เรารณรงค์อยู่แล้ว เรื่องปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การรณรงค์ไม่ให้สูบกัญชาเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ส. และเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องช่วยกัน ให้กฎหมายเกิดประโยชน์ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทำอย่างไรที่จะให้โทษไม่เกิดขึ้นกับเด็ก เยาวชน ผู้คนในสังคม คนไทยทุกคนต้องร่วมมือกัน สิ่งที่น่าเฝ้าระวังมากที่สุดคือการใช้อย่างไม่มีวินัย การใช้อย่างไม่ถูกต้อง ต้องให้ความรู้ต้องให้คำแนะนำ กฎหมายที่ออกมาต้องให้เท่าทันออกมาเร็วที่สุดให้การมีส่วนร่วมสูงสุด กับกลุ่มคนอย่างเร็วที่สุด” นายสัตวแพทย์ปกรณ์ ระบุ

 

 

ด้าน นางสาวทัศนีย์ ศิลปะบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิ ส.ส.ส. กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ที่เราต้องทำอย่างเร่งด่วนคือ การปกป้องเยาวชน ช่วยให้เด็กห่างไกลจากยาเสพติด มองว่าการปลดล็อกกัญชานั้นเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ควรพิจารณาใช้ให้ประโยชน์ แต่ในส่วนของเด็กและเยาวชนต้องให้ความรู้ความเข้าใจแก่เด็ก

 

ทั้งนี้ทางโรงเรียนปอเนาะ ต้องการทีจะรณรงค์เรื่องปลอดกัญชาในโรงเรียนด้วย เพราะเด็กในโรงเรียนปอเนาะมีจำนวนถึง 800 คน เป็นเด็กประถมถึงมัธยม มีความจำเป็นที่สถานศึกษาต้องสอดแทรกให้ความรู้สารเสพติดในกัญชาที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว ในส่วนของประโยชน์ก็จะมีการแจกแจงให้เด็กได้รับทราบ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง