รีเซต

เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวช้า ส่งสัญญาณลดเป้ากำไร บจ.

เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวช้า ส่งสัญญาณลดเป้ากำไร บจ.
ทันหุ้น
18 กุมภาพันธ์ 2568 ( 13:14 )
43

 

#GDP #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย

 

เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวช้า

เศรษฐกิจไทยขยายตัวเร่งขึ้นเป็น 3.2% YoY ในไตรมาส 4/67 จาก 3.0% YoY ในไตรมาส 3/67แต่ต่ำกว่าประมาณการของตลาดที่ 3.8% YoY สำหรับไตรมาสนี้

ปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจหลักๆมาจากการส่งออกที่แข็งแกร่งทั้งสินค้าและบริการ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังฟื้นตัวช้า

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาดอาจนำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรของตลาด โดยเฉพาะหลังจากผลประกอบการรายงานออกมาต่ำกว่าคาดอย่างต่อเนื่อง

 

อัตราการเติบโตของ GDP ไทยอ่อนแอกว่าคาดในไตรมาส 4/2567

เศรษฐกิจไทยขยายตัว 0.4% QoQ และ 3.2% YoY ในไตรมาส 4/2567 เร่งขึ้นจาก 3.0% YoY ในไตรมาส 3/2567 แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.8% YoY ด้านการเติบโตของ GDP ทั้งปี FY2567 อยู่ที่ 2.5% ปรับตัวขึ้นจาก 2.0% ในปี 2566 แต่ยังต่ำกว่าประมาณการของตลาดที่ 2.7% การเติบโตของ GDP ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2567มีสาเหตุจากการบริโภคของภาคเอกชนที่เร่งตัวน้อยกว่าคาด และการลงทุนจากภาคเอกชนที่หดตัวแม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.3% YoY ในไตรมาส 3/2567 เป็น 3.4% YoY ในไตรมาส 4/2567 โดยมีแรงหนุนหลักจากการใช้จ่ายในภาคบริการขณะที่การใช้จ่ายในสินค้าคงทน สินค้ากึ่งคงทน และสินค้าไม่คงทนดูทรงตัว ขณะที่ด้านการใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้น 5.4% YoY เทียบกับ 6.1% YoY ในไตรมาสก่อน

 

การลงทุนภาคเอกชนยังคงหดตัว โดยลดลง 2.1% YoY ในไตรมาส 4/2567 หลังจากที่ลดลง 2.5% YoY ในไตรมาส 3/2567 ซึ่งถูกฉุดจากการจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่อ่อนแอและกิจกรรมการก่อสร้างที่ซบเซา ขณะเดียวกัน การลงทุนภาครัฐขยายตัว 39.4% YoY เพิ่มขึ้นจาก 25.2% YoY ในไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากผลของฐานที่ต่ำในปีก่อน

 

การส่งออกขยายตัวดี 11.5% YoY โดยมีการปรับตัวดีขึ้นทั้งในภาคสินค้าและบริการการส่งออกสินค้าแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ไตรมาส หนุนจากทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและภาคการผลิต ส่วนการส่งออกภาคบริการยังคงเติบโตแข็งแกร่งที่ 22.9% YoY ในไตรมาส 4/2567 จาก 22.3% YoY ในไตรมาสก่อนหน้า

.

เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าพร้อมกับแนวโน้มที่ท้าทาย

สภาพัฒน์ฯ คงคาดการณ์ GDP ไทยปี FY2568 ในช่วง 2.3-3.3% ที่ค่ากลาง 2.8% เทียบกับประมาณการของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ 2.4% สภาพัฒน์ฯ เน้นย้ำความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ หนี้สินภาครัฐและเอกชนที่อยู่ในระดับสูงอาจเป็นปัจจัยฉุดรั้งการลงทุนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต

 

เรามองว่า GDP ที่เติบโตต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2567 สะท้อนถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ช้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวรายงานกำไรไตรมาส 4/2567 ต่ำกว่าคาด

 

ในเชิงกลุ่มอุตสาหกรรม เราแนะนำเน้นลงทุนในกลุ่มที่มีปัจจัยเชิงลบกดดันน้อยกว่าตลาดเช่น กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว (BA / ERW / SHR) จากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของตัวเลขส่งออกบริการโดยเฉพาะหลังจากที่มีการเทขายแรงตั้งแต่ต้นปีจากความกังวลว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะชะลอตัว รวมถึงกลุ่มธนาคาร (KKP / KTB) ที่เรามองมีความน่าสนใจเนื่องจากมีความเสี่ยงเชิงลบที่น้อยกว่ากลุ่มอื่นและมีอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง นอกจากนี้มองกลุ่มค้าปลีก (CRC) มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่กลุ่มโรงพยาบาล (BCH / BDMS) อาจรอโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ที่คาดว่าอาจรายงานออกมาอ่อนแอ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง