พายุไบรอนถล่มฉนวนกาซา ทำฝนตกหนัก น้ำท่วม ภัยธรรมชาติซ้ำเติมภัยสงคราม

แถลงการณ์จากสำนักงานสื่อรัฐบาลกาซา ระบุว่า พายุไบรอนก่อให้เกิด “สถานการณ์อันตรายโดยตรง” ต่อประชาชนกว่า 1.5 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราว หลังต้องพลัดถิ่นจากสงครามในฉนวนกาซาที่ดำเนินมากว่า 2 ปีแล้ว โดยเฉพาะในเขต อัลคารามา และชีค รอดวาน ซึ่งมีรายงานบ้านถล่มหลายหลังจากแรงลมและฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
บ้านเรือนอย่างน้อย 13 หลังคาเรือนพังถล่ม ขณะที่เต็นท์กว่า 27,000 หลัง ของผู้พลัดถิ่นถูกน้ำท่วม ลมแรงพัดเสียหาย หรือพลิกหงาย ทีมกู้ภัยพลเรือนของกาซาได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือมากกว่า 4,300 ครั้ง จากทั่วเขตปิดล้อม โดยมีผู้สูญหายจำนวนหนึ่งคาดว่าอาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
กระทรวงมหาดไทยของกาซา ยืนยันว่า แม้ทรัพยากรจะจำกัด ตำรวจท้องถิ่นและหน่วยกู้ภัยยังคงดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่น การช่วยชีวิตเด็ก 2 คนจากบ้านถล่มในเขต บีร์ อันนาอาจา อพยพครอบครัวที่ทางเข้าบ้านพังในเขต ชีค รอดวาน และกู้รถของเจ้าหน้าที่กาชาดที่ติดหล่มในค่ายนูเซรัต ใกล้สุสานอัลซูวารา ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยกาซายังเรียกร้องประชาคมโลกกดดันให้อิสราเอลเปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากขึ้น
ขณะเดียวกัน อัลจาซีรา รายงานว่า มีทารกเสียชีวิตจากความหนาวเย็นในค่ายผู้ลี้ภัยชาตี และพื้นที่อัลมาวาซี ทางตอนใต้ของข่าน ยูนิส เจ้าหน้าที่เตือนว่า พายุอาจกระทบประชาชนกว่า 850,000 คน ใน 761 จุดพักพิง เต็นท์จำนวนมากถูกทำลาย พื้นดินใกล้ชายฝั่งทรุดตัวทำให้ครอบครัวที่อาศัยตามแนวทะเลตกอยู่ในความเสี่ยงตลอดเวลา
ประชาชนจำนวนมากยังอยู่ในภาวะเสี่ยง เพราะยังต้องพักพิงอยู่ใต้บ้านที่เสี่ยงจะพังถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ แต่ไม่มีทางเลือกอื่น เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงผ้าใบกันฝน หรือเต็นท์ใหม่ได้จากข้อจำกัดที่อิสราเอลยังคงใช้ในการสกัดกั้นการส่งสิ่งของช่วยเหลือเข้าสู่กาซา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
