อัปเดตสถานการณ์ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ระดับน้ำเริ่มลดแต่คันดินถูกกัดเซาะ
ข่าววันนี้ ( 27 ก.ย. 64 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา หลังจากคันดินกั้นถูกมวลน้ำซัดพังทลายกว้างประมาณ 10 เมตร เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างปัจจุบันอยู่ที่ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 151% ซึ่งเกินความจุกักเก็บที่ 27.7 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้คันดินพังทลาย โดยน้ำส่วนใหญ่ที่ไหลเข้าอ่างนอกจากน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังรับน้ำมาจากพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และพื้นที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำมากเกินกว่าที่อ่างจะรับไหว จึงกัดเซาะคันดินพนังกั้นน้ำจนพังทลายลง ทำให้ไม่ต้องเปิดช่องทางระบายน้ำออกในจุดอื่นอีก
ปริมาณน้ำภายในอ่างลำเชียงไกรตอนล่าง ล่าสุด มีแนวโน้มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลงประมาณ 30 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างฯ น้อยกว่าปริมาณน้ำที่ไหลออก จึงไม่มีความจำเป็นต้องตัดคันดินเพิ่มในจุดอื่นเพื่อเพิ่มช่องทางการระบายน้ำ แต่ยังต้องต้องระมัดระวังติดตามสถานการณ์มวลน้ำจากห้วยสามบาท อ.ด่านขุนทด ที่จะไหลมาสมทบเพิ่มด้วย
ในขณะที่ส่วนราชการต่างๆ ทั้งฝ่ายปกครองอำเภอโนนไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมถึง ชลประทานนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่สำรวจจุดที่มีการก่อสร้างประตูระบายน้ำ ที่ได้มีการเปิดคันดินระบายน้ำออกจากตัวอ่างฯ เอาไว้ ซึ่งพบว่า ช่องระบายน้ำถูกน้ำกัดเซาะเพิ่มมากขึ้น จนช่องกว้างประมาณ 30 เมตรแล้ว โดยร้อยตรี ฐนนท์ธรณ์ กวีกิจรัตนา นายกเทศมนตรีตำบลบัลลังก์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ช.พัน.3 พล.ร.3 ได้ประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามลำห้วยท้ายอ่างลำเชียงไกรให้รีบขนของขึ้นที่สูง พร้อมเข้าดำเนินการเข้าอพยพย้ายชาวบ้านไปยังที่ปลอดภัย ซึ่งสถานการณ์น้ำที่อ่างเก็บน้ำเชียงไกรตอนล่าง ยังค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะหลังจากมวลน้ำจำนวนมหาศาลได้ไหลระบายออกจากอ่างฯ เข้าท่วมพื้นที่ชุนชน ต้องรอระบายออกไปจนเกือบหมด เพื่อดำเนินการซ่อมแซมคันดินให้สามารถกักเก็บน้ำได้อีกครั้ง แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลานานในการปรับปรุงซ่อมแซม ชาวบ้านในพื้นที่จึงแทบจะไม่เหลือน้ำให้ได้ใช้อุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งเลย
ข้อมูลจาก : ผู้สื่อข่าว TNN จังหวัดนครราชสีมา
ภาพจาก : ผู้สื่อข่าว TNN จังหวัดนครราชสีมา