ประเดิมเช็คเสียง สส. โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 68 หลังเปลี่ยนสมการการเมือง

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567  ที่รัฐสภา  นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วาระ 2 -3 ในวันที่ 3-5 กันยายนนี้ว่า การพิจารณาจะผ่านไปด้วยความเรียบร้อย คาดการณ์ว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 320 เสียง และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบในครั้งนี้ จะได้รับรู้ว่ามีเสียงจากพรรคไหนที่ร่วมรัฐบาลมาทั้งหมด หรือมาบางส่วน ก็จะสามารถดูได้จากการโหวตตามรายมาตราของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ  ส่วนประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล จะร่วมประชุมวิปรัฐบาลเมื่อใดนั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ยังคงคำสั่งเดิมไว้ก่อนไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะการที่ใครจะเข้าจะออกก็ต้องรอให้การพิจารณษร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ผ่านไปก่อน รวมถึงมีการแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ และนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้า พร้อมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน 

 ส่วนกรณีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2568 ครั้งนี้ ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายเรื่องโครงการดิจิทัล นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่กังวลใดๆ แม้จะอยู่ในช่วงช่วงรอยต่อระหว่างรัฐบาลใหม่ และมั่นใจว่าทุกประเด็นจะมีคำตอบ  พร้อมมองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะได้ซักถามในที่ประชุมสภา โดยที่ทุกคนที่สามารถติดตามได้ในการถ่ายทอดสด  และยืนยันว่า ม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใดเป็นพิเศษ เพื่อรับมือกับฝ่ายค้าน ที่จะอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2568 ส่วนการรับมือการอภิปรายฝ่ายค้านก็ไม่ได้มีการเตรียมการใดใดเป็นพิเศษเช่นกัน และเชื่อว่าเหตุการณ์จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเพราะทุกคนว่ากังวลงบประมาณ2567 ล่าช้าไปแล้วดังนั้นงบ ปี 68 ก็ไม่อยากให้เกิดความล่าช้าไม่เช่นนั้นปัญหาก็จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเงินที่จะไปถึงหน่วยงานราชการดังนั้นจึงดูแล้วว่าปัญหาใดใด

ด้านนายสรวงศ์  เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 พรรคประชาธิปัตย์ลงมติเห็นด้วยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ว่า ตนเองยังยึดคำที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้บอกไว้ว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามมติของพรรค เมื่อมีมติพรรคทุกท่านก็จะต้องปฏิบัติตาม  เพราะถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลเต็มที่ แต่เรื่องของเสียงโหวตในพรรคพรรคประชาธิปัตย์เองก็ต้องยึดมั่นตามที่เลขาธิการพรรค ปชป.ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ 

ส่วนกรณี ที่พรรคประชาธิปัตย์ ค้านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาโดยตลอดแต่วันนี้มาร่วมรัฐบาล นั้นนายสรวงศ์ กล่าวว่า  เรื่องนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะมีรัฐบาลใหม่แล้วผู้นำรัฐบาลและ ครม.ชุดใหม่ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องวิธีการต่างๆก็ต้องรอดู ซึ่งพรรคเพื่อไทยทำตามที่หลายฝ่ายทักท้วงและเสนอแนะมาดังนั้นอยากให้มีการติดตามหลังมี ครม.ชุดใหม่และแถลงนโยบายต่อสภา  จึงขอให้ติตามว่าจะใช้วิธีการ ระบบใด ก็ต้องติดตาม

ส่งงบประมาณในปี 2568 จะมีการจัดสรรงบประมาณในการใช้กองโครงการดิจิทัล ถึง 3แสน5 หมื่นล้านบาท 

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เป็น กมธ.งบประมาณแต่เห็นว่าเป็นไปตามนั้นซึ่งขณะนี้ได้มีงบประมาณปี 2567 122,000 ล้านบาทแล้วดังนั้นโครงการนี้ยืนยันว่ารัฐบาลฟังคำทักท้วง ไม่ได้ดื้อดึง ฟังทุกฝ่ายอะไรที่ทำได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็ฟังเพื่อจะทำให้สอดคล้องกับความต้องการและความสะดวกที่จะทำได้ถูกต้องตามที่คุณเรียกร้อง