รีเซต

โฆษก ศบค.ดีใจไม่ตัวเลขผู้เสียชีวิตโควิด-19 ขอคนหายป่วยบริจาคเลือด “พลาสมา”

โฆษก ศบค.ดีใจไม่ตัวเลขผู้เสียชีวิตโควิด-19 ขอคนหายป่วยบริจาคเลือด “พลาสมา”
มติชน
19 เมษายน 2563 ( 13:20 )
70
โฆษก ศบค.ดีใจไม่ตัวเลขผู้เสียชีวิตโควิด-19 ขอคนหายป่วยบริจาคเลือด “พลาสมา”

“โฆษก ศบค.” ดีใจไม่ตัวเลขผู้เสียชีวิตโควิด-19 ขอคนหายป่วยบริจาคเลือดนำ “พลาสมา” ช่วยคนป่วย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงรายงานประจำวัน ว่า วันนี้ตัวเลขของผู้ที่หายป่วยไปถึง 141 คน ทำให้ตัวเลขของการหายป่วยอยู่ที่ 1,928 ราย และที่น่าชื่นใจคือ ไม่มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตเลย ดังนั้น ยอดเสียชีวิตสะสมจึงอยู่ที่ 47 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่ 32 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2765 ราย

ทั้งนี้ จากกราฟผู้ป่วยสะสมอยู่ในช่วงอายุ 20-2 9 ปี โดยอยู่ในกลุ่มนี้ 658 ราย คิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนผู้ป่วยสะสม อายุเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อจึงอยู่ที่ 39 ปี จึงอยากให้ท่านสำรวจตัวเอง ไปไหนมาไหน ให้ใส่หน้ากาก 100% ส่วนกราฟที่รักษาอยู่คือ 790 ราย เราดีใจที่ต่ำกว่า 1,000 เพราะทำให้การใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ที่ต้องจัดหาก็ลดน้อยลง นี่คือสิ่งที่เราช่วยกัน ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหาย 1,928 รายนั้น คนกลุ่มนี้ปลอดภัย เป็นผู้มีภูมิคุ้มกันเป็นส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มที่เราอยากได้พลาสมาของท่าน ซึ่งตอนนี้ทราบว่า มีจำนวนไม่ถึง 100 คนเลยที่มาบริจาคพลาสมาดังนั้น หากท่านมีความประสงค์จะบริจาคเลือดให้ไปที่สภากาชาดไทยโดยบอกว่า ท่านบอกว่าท่านป่วย และหายแล้ว เราจะใช้เลือดของท่านในการไปดูแลคนป่วยกลุ่มต่อไป อย่างไรก็ตาม วันนี้นิวส์เคสอยู่ในกลุ่มที่กลับมาจากอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 1 คน จาก 70 ท่านที่กลับมา ป่วยรวมแล้ว 62 ราย ขณะที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ ป่วยเพิ่ม 1 ราย รวม 3 ราย กลับจากอังกฤษป่วยพร้อมกัน 2 ราย นี่จึงความสำคัญของการกักตัวเวลาที่กลับมาจากต่างประเทศ

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า จำวนผู้ติดเชื้อใหม่ 32 ราย อยู่ในกรุงเพทฯ 24 ราย มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันก่อนหน้านี้ 18 คน เป็น กทม. 14 คน อยู่ในสถานที่ชุมชน ห้าง ตลาดนัด 2 คน ยอดรวมของผู้ติดเชื้อกระจายในจังหวัดต่างๆ 10 อันดับแรกคือ กรุงเทพฯ 1425 ราย ภูเก็ต 192 ราย นนทบุรี 150 ราย สมุทรปราการ 108 ราย ยะลา 99 ราย  ปัตตานี 90 ราย ชลบุรี 84 ราย สงขลา 56 ราย เชียงใหม่ 40 ราย และปทุมธานี 33 ราย โดยอยู่ในระหว่างสอบสวน 68 ราย ขณะที่ 9 จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ คือ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง ส่วนจังหวัดที่ 14 วันที่ผ่านมาไม่มีผู้ป่วยเพิ่มอีกเลยมีจำนวน 33 จังหวัดแล้ว ซึ่งตนรู้สึกดีใจจังเลยที่ได้เห็นตัวเลขนี้ มีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยุธยา สกลนคร และสุรินทร์ เพิ่มมาจากเมื่อวาน

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า กราฟผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่ กทม. และนนทบุรีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขออย่าชะล่าใจ เพราะ 2 จังหวัดนี้มีประชากรรวมกันกว่า 10 ล้านคน ขณะที่ต่างจังหวัดขึ้นๆลงๆ ซึ่งอยู่ในสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการนั่นเอง ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนตัวเลขลดลง ซึ่งต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน และทุกภาคส่วนที่ช่วยกันทำให้ตัวเลขของภาคใต้ลดลง อย่างไรก็ตาม กองระบาดวิทยา ของกรมควบคุมโรค ได้ทำวิเคราะห์ขึ้นมาเพื่อกลุ่มผู้ติดเชื้อช่วงอายุ 20-29 ปี โดยเฉพาะว่า ตั้งแต่ เดือนมกราคม-18 เมษายน ผู้ป่วยเป็นคนกลุ่มนี้ประมาณครึ่งหนึ่ง คือ 1334 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 49 เสียชีวิต 3 ราย เป็นชายมากกว่าหญิง กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. ภูเก็ต และนนทบุรี อาชีพอยูาในสถานบันเทิง โรงแรม ร้านอาหาร ร้านนวด และขับรถโดยสาร 19% รับจ้างทั่วไป 18% พนักงานบริษัท 14% ปัจจัยเสี่ยงแยกออกมาเป็น 2 ส่วน คือ มกราคม-14 มีนาคม เป็นการเดินทางมาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ คือ 36% เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 20% และอาชีพเสี่ยง สัมผัสกับผู้ป่วย 16% ขณะที่ช่วง 15 มีนาคม-18 เมษายน อยู่มนครอบครัว สถานที่ทำงาน กลุ่มเพื่อน 36% กลับจากต่างประเทศ 14% และเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 11% โดยจะเห็นว่า มีสถานบันเทิงเข้ามาเกี่ยวข้องทั้ง 2 ช่วงเวลา จึงสอดคล้องกับมาตรการว่าเราจะเปิดหรือไม่เปิดอะไร ต้องใช่สถิติเป็นตัวนำในการตัดสินใจ

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรวม 2,332,892 ราย รายที่หนัก 55,280 รักษาหาย 596,850 แต่เสียชีวิตอยู่ที่ 160,763  รายแล้ว เสียชีวิตเมื่อวานวันเดียว 6,502 ราย สหรัฐอเมริกา เสียชีวติวันเดียว 1857 ศพ อังกฤติ 888 ศพ ฝั่งเศส 642 ศพ ขณะที่ประเทศจีนที่มีตัวเลขเพิ่มขึ้น เพราะเขาได้ปรับปรุงชุดข้อมูลของเขาที่ไม่ได้รายงาน แต่วันนี้ไม่มีการรายงานเพิ่ม ขณะที่ประเทศทางฝั่งเอเชียที่อยู่ใกล้เรา ญี่ปุ่น พบผู้ป่วยรายใหม่เมื่อวาน 509 ราย อินโดนีเซีย 325 รายฟิลิปปินสื 209 ราย สิงคโปร์ 912 ราย ซึ่งมีรายงานว่าติดกันจากแรงงานต่างชาติที่ไปอยู่ในสถานที่แออัด และมาเลเซีย 54 ราย ส่วนไทยเราอยู่ในลำดับที่ 53

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าด้วยว่า สำหรับการจัดส่งหน้ากากอนามัยตัวเลขที่จัดส่งไปแล้วอยู่ที่ 37 ล้านชิ้น ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขจัดส่งไปแล้ว 1.8 ล้านชิ้น เราเห็นการทำงานนร่วมกันของทุกท่าน และทุกกระทรวง ขณะที่ N95 จัดส่งไปแล้ว 119,100 ชิ้น เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ เรามีเงินที่อยากจะซื้อ แต่หาของขายไม่ได้ ส่วนชุดป้องกัน หรือ PPE ส่งไปแล้ว 8640 ชุด และอยู่ระหว่างการจัดส่ง 10,650 ชุด ขอให้มั่นใจว่า อะไรที่สำคัญภาครัฐเราจัดทำ และทำจริง

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการพาคนไทยกลับประเทศว่า จะมีคนเดินทางกลับจากทางเนเธอแลนด์  27 คน บาห์เรน 74 คน และสหรัฐอเมริกา 162 คน กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ประสาน และดูแลกัน ส่วนข้อมูลการเคอร์ฟิว มีการชุมนุมมั่วสุมจนต้องดำเนินคดีไป 68 ราย ออกนอกเคหะสถาน 674 ราย โดยตัวเลขสูงสุดยังเป็น กทม. ตามมาด้วย ชลบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครราชสีมา ขณะที่ตัวเลขเป็น 0 คือ ยโสะร อำนาจเจริญ ลำปาง น่าน นครพนม แม่ฮ่องสอน สระแก้ว พิจิตร และสุโขทัย ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือในการอยู่บ้านด้วย นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ศบค. ได้ออกไปเยี่ยม ตรวจการใช้รถใช้ถนนในยามวิกาล รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติหน้าที่ ได้ไปเจอครอบครัวหนึ่งน่ารักมา เขานำลูกที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกันไปโรงพยาบาล ก็ได้เห็นภาพน่ารักของครอบครัวที่ออกจากบ้านอย่างมีเหตุ มีผล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง