แนะคลังลดหย่อนภาษีซื้อสินค้าผลิตในไทย

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สำหรับโครงการ "คนละครึ่งพลัส"  ที่มีผู้ลงทะเบียนสิทธิ 20 ล้านคนแล้วนั้น ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญ คือ โครงการในครั้งนี้มีร้านค้าลงทะเบียน 200,000 -300,000 และเป็นร้านค้ารายใหม่ ไม่ใช่ร้านค้ารายเก่า ผมคิดสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 

ส่วนข้อกังวลว่าจะมีสินค้าสวมสิทธินำเข้าต่างประเทศเข้ามาขายในไทย ทำให้ไทยไม่ได้รับประโยชน์ จากการศึกษาก็มีบ้าง แต่เรามองภาพใหญ่มากกว่า เพราะโครงการนี้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึงร้อยละ 80 แต่เรื่องนี้อาจคิดเป็นร้อยละ 20 เท่านั้น 

ส่วนการแก้ไขสินค้านำเข้าไม่ถูกกฎหมาย หรือสำแดงเท็จ เรื่องนี้จะต้องแก้ในระยะยาว ผ่านการส่งเสริมให้ใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ (Made in Thailand – MIT) ปัญหานี้ก็จะหมดไป รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนจัดซื้อจัดจ้างในประเทศไทยให้ถึงร้อยละ 50 จะทำให้มีเม็ดเงินหลายแสนล้านบาทหมุนในระบบ ไม่ใช่รอบเดียว แต่หมุนได้หลายรอบ เกิดการจ้างงานจริง สร้างความเข้มแข็งให้เอสเอ็มอี  

ดังนั้นมองว่า "คนละครึ่งพลัส" เฟส 2 ที่จะขยายนั้น  อยากให้กระทรวงการคลังพิจารณาลดหย่อนภาษีปลายปีสำหรับผู้ที่ช่วยอุดหนุนสินค้าเมดอินไทยแลนด์ด้วย

ส่วนมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบนั้น ถือว่าเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี ช่วยลดค่าใช้จ่ายและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยประคองเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ของปี เพราะหลายฝ่ายมีความกังวลตัวเลขจีดีพีเหลือร้อยละ 0.3