รีเซต

ชาวบ้านแห่ชี้ตัวสาวแสบ แก๊งหลอกซื้อดาวน์รถไถ-รถกระบะ ก่อนเชิดรถหนี ตำรวจค้านประกันตัว

ชาวบ้านแห่ชี้ตัวสาวแสบ แก๊งหลอกซื้อดาวน์รถไถ-รถกระบะ ก่อนเชิดรถหนี ตำรวจค้านประกันตัว
มติชน
12 กันยายน 2563 ( 14:37 )
87
ชาวบ้านแห่ชี้ตัวสาวแสบ แก๊งหลอกซื้อดาวน์รถไถ-รถกระบะ ก่อนเชิดรถหนี ตำรวจค้านประกันตัว

ชาวบ้านแห่ชี้ตัวสาวแสบ แก๊งหลอกซื้อดาวน์รถไถ-กระบะ ก่อนเชิดรถหนี ตำรวจค้านประกันตัว

 

จากกรณีตำรวจ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวนางสาวเบญจทิพย์ ภูสมศรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.5 ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.174/2563 ในข้อหายักยอกทรัพย์ หลังก่อเหตุหลอกซื้อดาวน์รถยนต์และรถไถผ่านทางเฟซบุ๊ก แล้วหลอกว่าจะเซ็นต์สัญญาผู้เช่าซื้อ เพื่อที่จะส่งงวดต่อ ก่อนเชิดรถหนีหาย โดยมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อหลายราย เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับใยข้อหายักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง และรับของโจรจำนวน 8 หมายจับในหลายจังหวัด

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีชาวบ้านกว่า 30 คน ที่เดินทางมาจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งตกผู้เสียหายและระบุว่าถูกนางสาวเบญจทิพย์พร้อมพวก หลอกซื้อดาวน์รถยนต์และรถไถผ่านทางเฟซบุ๊กเข้ามาชี้ตัวผู้ต้องหา และเข้าแจ้งความเพิ่มเติม หลังทราบข่าวว่า นางสาวเบญจทิพย์ถูกตำรวจตามจับตัวได้แล้ว โดยมี พ.ต.ต.วิชชุกร ภูตา พนักงานสอบสวนสภ.ยางตลาดคอยรับเรื่อง

ด้าน นายนิยม ดอกพรมลา ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนดู่ หมู่ 8 ต.บัวแดง อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่าเมื่อประมาณปลายปี 2561 ต้องการขายรถไถที่ยังมีสัญญาเช้าซื้อกับไฟแนนซ์ จึงประสานตัวแทนจำหน่าย ก่อนที่ตัวแทนจำหน่ายจะประกาศขายทางเฟซบุ๊กให้ ต่อมาจึงมีนายหน้ารวมทั้งผู้ต้องหามาติดต่อ ก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขายกันวันที่ 1 ธันวาคม 2561 โดยวางเงินมัดจำไว้จำนวนหนึ่ง โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่กระทำกับตนนั้น ลักษณะเดียวกับผู้เสียหายรายอื่นคือรับปากจะส่งงวดต่อ แต่หลังจากได้รถไปแล้วกลับผิดสัญญาและไม่สามารถติดต่อได้อีก พยายามติดตามหาทั้งคนและรถก็ไม่พบ ทำให้ถูกไฟแนนซ์ทวงค่างวดรถ จึงได้รู้ว่าถูกผู้ต้องหารายนี้และพรรคพวกหลอก และได้รับความเดือดร้อนเสียหาย พอทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาดและตำรวจกองปราบจับตัวได้ จึงได้เดินทางมาชี้ตัวและแจ้งความเพิ่ม โดยคาดว่าจะมีผู้เสียหายจากหลายพื้นที่มาแจ้งความเพิ่มเรื่อยๆ

 

 

ขณะที่ นางไสว กล้าขยัน อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ 10 บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนตนมาแจ้งความไว้ที่ สภ.ยางตลาดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยเป็นการแจ้งความร่วมกับผู้เสียหายจากการถูกผู้ต้องหารายดังกล่าวและพวก หลอกซื้อรถไถและรถกระบะ ซึ่งที่ผ่านมาทำให้ตนเดือดร้อนหนัก เพราะถูกไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย จากการไม่ชำระค้างวดรถไถ ทั้งยังต้องจ้างเสียเงินค่าทนายความอีก รวมแล้วสูญเสียเงินจากการถูกหลอกขายรถไถกว่า 5 แสนบาท ขณะที่ผ่านมาก็พยายามติดตามความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี พอทราบว่าถูกจับตัวได้จึงเดินทางมาชี้ตัว และคัดค้านการประกันตัว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เสียหายทุกคนต้องการคือ อยากได้รถคืน ส่วนด้านคดีขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะการกระทำดังกล่าวถือบุคคลอันตรายและเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ในครั้งนี้

 

ด้าน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ วงศาอ้วน ผกก.สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับมากถึง 8 หมาย คาดว่า น่าจะทำกันเป็นขบวนการ และก่อเหตุมาแล้วหลายจังหวัด โดยล่าสุดมีผู้เสียหายเข้ามาชี้ตัวจำนวนมาก คาดว่าน่าจะมีความเสียหายหลายสิบล้านบาท และมีเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมจำนวน 5 ราย ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จ.อุดรธานี และ จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อรถยนต์และไถ ซึ่งคาดว่าจะมีเข้ามาแจ้งความเพิ่มอีก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการขยายผลตรวจสอบหาตัวผู้ร่วมขบวนการ พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในวันนี้ โดยตำรวจจะยื่นการคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และผู้ต้องยังมีพฤติกรรมหลบหนี