จนท.ขี่เจ็ตสกีลาก 'ซากวาฬบรูด้า' หนักกว่า 5 ตัน ไปชายหาดอื่น เตรียมชันสูตรหาสาเหตุการตาย
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 มกราคม นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย สัตวแพทย์หญิง พิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง นายเชาวลิต เพชรน้อย ประมงอำเภอเกาะสมุย และนายวิทยา สุขสม ประธานศูนย์กู้ภัยวัดปลายแหลม เข้าสำรวจจุดที่พบซากวาฬบรูด้าที่ลอยมาติดโขดหิน บริเวณชายหาดเชิงมน หมู่ 5 ต.มะเร็ต เพื่อหาวิธีเคลื่อนย้ายซากวาฬบรูด้าไปที่บริเวณหาดทราย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีคลื่นแรง เพื่อให้ง่ายต่อการผ่าชันสูตรและฝังกลบ
อ่านข่าว : วาฬบรูด้า ตายลอยติดโขดหินชายหาดเกาะสมุย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณจุดที่พบซากวาฬบูรด้ายังมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวเข้ามาดูกันอย่างต่อเนื่อง และถ่ายรูปไว้ เพราะไม่เคยเห็นวาฬตัวขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวหญิงต่างชาติถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาด้วยความสงสารวาฬบรูด้าตัวนี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยวัดปลายแหลม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้นำเชือกมาผูกที่ลำตัวของวาฬและใช้เจ็ตสกีลากออกไปไว้บริเวณชายหาดที่อยู่ใกล้เคียง
สัตวแพทย์หญิง พิมพ์ชนก กล่าวว่า หลังจากนี้จะผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายว่าเกิดจากอะไร สำหรับซากวาฬบรูด้าวัดความยาวของลำตัวได้ 11 เมตร 30 เซนติเมตร มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 5 ตัน เพศเมีย โตเต็มวัย มีอายุมากกว่า 6 ปี ตายมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ สภาพเริ่มเน่าเปื่อย ผิวหน้งหลุดล่อน กระดูกสันหลังและที่ปลายหางหลุดหมดแล้ว ส่วนสาเหตุการตายของวาฬที่พบมาจากป่วยบ้าง อุบัติเหตุบ้าง และไม่สามารถหาสาเหตุได้จากสภาพซากที่เน่า
สำหรับวาฬบรูด้า เป็นวาฬขนาดใหญ่ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีจุดเด่นที่ครีบหลังซึ่งมีรูปโค้งอยู่ค่อนไปทางด้านปลายหาง แพนหางวางตัวตาม แนวราบ และมีรอยเว้าเข้าตรงกึ่งกลาง ครีบคู่หน้ามีปลายแหลม ซี่บนแผ่นกรองค่อนข้างหยาบ และเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ จึงได้รับการคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2562 ห้ามมีการค้าขายวาฬบรูด้าระหว่างประเทศ