นายกปากีฯเสนอ ‘จับตอน’ นักโทษข่มขืนแม่ลูก 2
วันนี้ ( 15 ก.ย. 63 )นายกรัฐมนตรีอิมรอน ข่านแห่งปากีสถาน กล่าวว่า เขาต้องการให้นักโทษคดีข่มขืนถูก “จับตอน” ด้วยวิธีทางเคมี หรือถูกแขวนคอต่อหน้าสาธารณะ ในการตอบคำถามผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับคดีแม่ลูก 2 ถูกข่มขืนต่อหน้าลูกในปากีสถานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เกิดเหตุคุณแม่ลูก 2 ถูกทรชน 2 คน ลากลงจากรถ ใช้ปืนจี้และข่มขืนเธอต่อหน้าลูกๆ ของเธอ ในขณะที่รถของเธอจอดเสียอยู่บนทางหลวงสายหนึ่ง ใกล้กับเมืองละฮอร์ของปากีสถาน ตำรวจจับ 1 ใน 2 คนร้ายได้แล้วเมื่อวานนี้
ข่านคิดว่า คนร้ายทั้งสองควรถูกแขวนคอต่อหน้าสาธารณะ แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลของเขาให้ข้อมูลว่า การลงโทษด้วยการแขวนคอ อาจกระทบกับสถานภาพการได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าของปากีสถาน หรือจีเอสพี ที่ปากีสถานได้รับจากสหภาพยุโรป หรืออียู เมื่อปี 2557 ซึ่งมีเงื่อนไขว่าปากีสถานต้องเคารพในอนุสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ รวมถึงด้านสิทธิมนุษยชน
ด้วยเหตุนี้ ข่านจึงบอกว่า เขากำลังพิจารณาอีกทางเลือกหนึ่ง ในการลงโทษนักโทษคดีข่มขืน นั่นคือ การจับตอนด้วยวิธีทางเคมี
ข่านให้ความเห็นต่อไปว่า คดีฆาตกรรมยังแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ฆ่าโดยไม่เจตนา เจตนาฆ่า และเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งจะได้รับโทษสูงสุด คดีข่มขืนก็น่าจะทำอย่างเดียวกัน โดยนักโทษคดีข่มขืนควรได้รับโทษสูงสุดคือถูกจับตอน เพื่อไม่ให้สามารถข่มขืนใครได้อีก
ทั้งนี้ การตอนด้วยวิธีทางเคมี คือการฉีดสารเคมี เข้าไปในร่างกายนักโทษยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเพศชายจากอัณฑะ ทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
ส่วนความคืบหน้าในการจับกุมคนร้ายที่ข่มขืนแม่ลูก 2 ด้านตำรวจปากีสถานเปิดเผยว่า คนร้าย 1 ใน 2 ที่ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ ได้รับสารภาพแล้ว และผลตรวจดีเอ็นเอตรงกันกับคนร้าย ขณะนี้ตำรวจกำลังตามล่าตัวคนร้ายอีกคนที่ยังลอยนวลอยู่
เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศปากีสถาน ทำให้ประชาชนออกมาประท้วงทั่วประเทศ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลาออก และให้แขวนคอคนร้ายที่ข่มขืนแม่ลูก 2
อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เคยมีการเสนอร่างกฎหมายแขวนคอต่อหน้าสาธารณะ สำหรับนักโทษคดีข่มขืนและคดีฆาตกรรมที่เหยื่อเป็นเด็ก แต่รัฐสภาปากีสถานลงมติไม่ผ่านร่างกฎหมายนี้
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline