รีเซต

'ชุดพยัคฆ์ไพร' บุกยึดรีสอร์ต 'จุดชมวิวผาตะวันงาม' รุกป่าสงวน รัฐเสียหาย 4.5 ล้าน

'ชุดพยัคฆ์ไพร' บุกยึดรีสอร์ต 'จุดชมวิวผาตะวันงาม' รุกป่าสงวน รัฐเสียหาย 4.5 ล้าน
ข่าวสด
23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 15:01 )
139

 

'ชุดพยัคฆ์ไพร' บุกยึดรีสอร์ต 'จุดชมวิวผาตะวันงาม' รุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขานกกระยาง เจ้าของโดนเรียกค่าเสียหาย 4.5 ล้านบาท ฐานทำรัฐเสียหาย

 

วันที่ 23 ก.พ. 65 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และนายสมชาย ฉิมแย้ม เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส กอ.รมน. จังหวัดพิษณุโลก สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.14 (น้ำคลาด)

 

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลก หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พล.7 (บ้านแยง) และฝ่ายปกครองอำเภอนครไทย รวม 15 นาย ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่จุดชมวิวบุกรุกพื้นที่ป่า บ้านหนองหิน หมู่ 2 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก


โดยก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการก่อสร้างร้านกาแฟ ลานกางเต็นท์ และทำจุดจุดชมวิวบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ จึงมีการสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีการก่อสร้าง รีสอร์ต ชื่อ “จุดชมวิวผาตะวันงาม” อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าเช็กอินชมวิว และเช่าที่พักเป็นลานกางเต็นท์

 

จากการตรวจสอบ พบมีการปรับพื้นที่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่กางเต็นท์เป็นลานกว้าง ประมาณ 5 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จำนวนมาก มีช่างกำลังก่อสร้างซุ้มนั่งรับประทานอาหารเพิ่มเติม โดยก่อสร้างเสร็จแล้ว 16 ซุ้ม

 

มีการใช้รถแทรกเตอร์ล้อยางดันดินลงไปที่บริเวณหน้าผาเป็นแนวยาว เพื่อขยายพื้นที่ทำเป็นจุดชมวิว และทำรั้วเป็นเหล็ก และไม้ไผ่กั้น นอกจากนั้นมีการสร้างซุ้มถ่ายรูป 2 ซุ้ม และซุ้มศาลาที่นั่งรับประทานอาหารอีก 6 ซุ้ม ติดรั้วริมหน้าผา

 

สอบสวน น.ส.สายฝน (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ให้การเบื้องต้น รับว่าเป็นเจ้าของ รีสอร์ต จุดชมวิวผาตะวันงาม ซื้อที่ดินต่อจาก นายประถม อายุ 61 ปี จำนวน 15 ไร่ และจากชาวบ้านรายอื่นอีก แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ โดยเริ่มสร้างจุดชมวิว ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านกาแฟ เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา

 

พร้อมปลูกไม้ผล มี สับปะรด และทุเรียน ขุดสระน้ำ จำนวน 2 สระ สร้างน้ำตกจำลอง รูปปั้นทุเรียน สับปะรดไว้ให้นั่งท่องเที่ยวถ่ายรูป โดยพื้นที่ครอบครองไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ และยังตรวจสอบพบทับที่ดินชาวบ้าน ที่มีการสำรวจการถือครอง มติ ครม.30 มิ.ย.41 รวม 9 ราย

เจ้าหน้าที่จึงให้ น.ส.สายฝน นำชี้ขอบเขตพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งขอบเขตพื้นที่บุกรุกใหม่ด้วยเครื่องมือหาค่าพิกัดดัวยสัญญาณดาวเทียม (จีพีเอส) ในระบบ UTM WGS 1984 มาคำนวณ เนื้อที่ 66 - 2 - 44 ไร่ ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง เป็นการกระทำเข้ายึดถือครอบครองหรือทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

คิดค่าเสียหายเบื้องต้นของรัฐเป็นเงิน จำนวน 4,545,747.บาท โดยทางหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.14 (น้ำคลาด) ได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง