'ชุดพยัคฆ์ไพร' บุกยึดรีสอร์ต 'จุดชมวิวผาตะวันงาม' รุกป่าสงวน รัฐเสียหาย 4.5 ล้าน
'ชุดพยัคฆ์ไพร' บุกยึดรีสอร์ต 'จุดชมวิวผาตะวันงาม' รุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขานกกระยาง เจ้าของโดนเรียกค่าเสียหาย 4.5 ล้านบาท ฐานทำรัฐเสียหาย
วันที่ 23 ก.พ. 65 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และนายสมชาย ฉิมแย้ม เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส กอ.รมน. จังหวัดพิษณุโลก สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.14 (น้ำคลาด)
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลก หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พล.7 (บ้านแยง) และฝ่ายปกครองอำเภอนครไทย รวม 15 นาย ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่จุดชมวิวบุกรุกพื้นที่ป่า บ้านหนองหิน หมู่ 2 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
โดยก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการก่อสร้างร้านกาแฟ ลานกางเต็นท์ และทำจุดจุดชมวิวบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ จึงมีการสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีการก่อสร้าง รีสอร์ต ชื่อ “จุดชมวิวผาตะวันงาม” อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าเช็กอินชมวิว และเช่าที่พักเป็นลานกางเต็นท์
จากการตรวจสอบ พบมีการปรับพื้นที่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่กางเต็นท์เป็นลานกว้าง ประมาณ 5 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จำนวนมาก มีช่างกำลังก่อสร้างซุ้มนั่งรับประทานอาหารเพิ่มเติม โดยก่อสร้างเสร็จแล้ว 16 ซุ้ม
มีการใช้รถแทรกเตอร์ล้อยางดันดินลงไปที่บริเวณหน้าผาเป็นแนวยาว เพื่อขยายพื้นที่ทำเป็นจุดชมวิว และทำรั้วเป็นเหล็ก และไม้ไผ่กั้น นอกจากนั้นมีการสร้างซุ้มถ่ายรูป 2 ซุ้ม และซุ้มศาลาที่นั่งรับประทานอาหารอีก 6 ซุ้ม ติดรั้วริมหน้าผา
สอบสวน น.ส.สายฝน (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ให้การเบื้องต้น รับว่าเป็นเจ้าของ รีสอร์ต จุดชมวิวผาตะวันงาม ซื้อที่ดินต่อจาก นายประถม อายุ 61 ปี จำนวน 15 ไร่ และจากชาวบ้านรายอื่นอีก แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ โดยเริ่มสร้างจุดชมวิว ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านกาแฟ เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา
พร้อมปลูกไม้ผล มี สับปะรด และทุเรียน ขุดสระน้ำ จำนวน 2 สระ สร้างน้ำตกจำลอง รูปปั้นทุเรียน สับปะรดไว้ให้นั่งท่องเที่ยวถ่ายรูป โดยพื้นที่ครอบครองไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ และยังตรวจสอบพบทับที่ดินชาวบ้าน ที่มีการสำรวจการถือครอง มติ ครม.30 มิ.ย.41 รวม 9 ราย
เจ้าหน้าที่จึงให้ น.ส.สายฝน นำชี้ขอบเขตพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งขอบเขตพื้นที่บุกรุกใหม่ด้วยเครื่องมือหาค่าพิกัดดัวยสัญญาณดาวเทียม (จีพีเอส) ในระบบ UTM WGS 1984 มาคำนวณ เนื้อที่ 66 - 2 - 44 ไร่ ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง เป็นการกระทำเข้ายึดถือครอบครองหรือทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
คิดค่าเสียหายเบื้องต้นของรัฐเป็นเงิน จำนวน 4,545,747.บาท โดยทางหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.14 (น้ำคลาด) ได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป