ชาวพม่า ลอบเข้าเมือง เนียนขึ้นรถปะปนชาวบ้าน หวังทำงานที่อ้อมน้อย รับจ่ายค่าหัว 2 หมื่น

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 22 มีนาคม พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารหมวดลาดตระเวนที่ 4 ร่วมกับ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และชุดปฏิบัติการข่าว ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่สาธารสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณจุดคัดกรองเชื้อโควิด-19 ช่องเขาหนีบ หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
พบรถยนต์โดยสารวิ่งมาจากทางด้านด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจสอบเอกสาร รวมทั้งตรวจวัดอาการไข้ ของผู้โดยสารทุกคนที่อยู่บนรถ ผลปรากฏทุกคนมีอุณหภูมิเป็นปกติไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
แต่พบแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 2 คน นั่งปะปนมากับผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวลงมาจากรถเพื่อขอตรวจสอบเอกสารการเดินทาง ปรากฏแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ไม่มีเอกสารมาแสดง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเอาไว้
โดยทั้ง 2 ให้การยอมรับสารภาพว่า เดินทางมาจาก อ.อะป่อง จ.มะละแหม่ง ประเทศพมา เมื่อมาถึงชายแดน ได้ลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ แล้วไปหลบที่บริเวณจุดนัดพบภายในชุมชนชาวมอญบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า
จากนั้นเพื่อนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับไปขึ้นรถยนต์โดยสารที่บ้านห้วยน้ำขาว หมู่ 15 ต.บ้านเก่า เพื่อไปลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อไปถึงจะมีนายหน้าขับรถยนต์มารับเพื่อไปส่งที่ทำงานในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยต้องจ่ายเงินให้กับรายหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมชาติ คนละ 20,000 บาท แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
หลังจากแรงงานทั้งสองยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา ฐานลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ฝ่าฝืน คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 5522/2563 ลงวันที่ 29 ธ.ค.63 และฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ก่อนที่จะส่งมอบตัวให้กับ ตม.กาญจนบุรี เพื่อรอผลักดันกลับประเทศต่อไป
บทความน่าสนใจอื่นๆ
