วิกฤต! ไฟป่าสหรัฐฯยังลุกลามหนัก ยอดตายพุ่ง 34 รายแล้ว

วันนี้( 14 ก.ย.63) บ้านเรือนประชาชนหลายพันหลัง ถูกเผาไหม้เหลือแต่เถ้าถ่านจากเหตุการณ์ไฟป่า โดยเฉพาะพื้นที่ในรัฐโอเรกอน ประชาชนร้อยละ 10 ของจำนวนประชาชนทั้งหมดในรัฐต้องเข้าไปอาศัยอยู่ในเขตอพยพ ขณะที่รัฐบาลของรัฐโอเรกอนกำลังรับมือกับความเสียหายครั้งร้ายแรงที่สุด โดย เคท บราวน์ ผู้ว่าการรัฐโอเรกอนเปิดเผยว่า มีประชาชนกว่า 4 หมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และมีผู้สูญหายอีกจำนวนมากโดยรัฐกำลังเตรียมรับมือกับ "หายนะขั้นร้ายแรง"

ขณะเดียวกันไฟป่าที่ลุกไหม้ทำให้เกิดหมอกควันปกคลุมไปทั่วเขตเวสต์โคสต์ของสหรัฐและทำให้มลภาวะทางอากาศในเมืองบางแห่งอยู่ในขั้นร้ายแรง โดยรายงานระบุว่า ขณะนี้สภาพอากาศในเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากเมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดา ที่กำลังเผชิญปัญหาไฟป่าเช่นกัน

ด้านหน่วยงานกู้ภัยของสหรัฐระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 34 คนและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ไฟป่าทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ได้ทั้งในรัฐแคลิฟอร์เนีย โอเรกอนและวอชิงตัน มีพื้นที่ถูกไฟป่าแผดเผาไปแล้วเกือบ 2 หมื่นตารางกิโลเมตร เทียบได้กับขนาดของรัฐนิวเจอร์ซีย์ หรือคิดเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่เกือบ 13  เท่าของกรุงเทพมหานคร

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเดินทางลงพื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียในวันนี้ เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินแคลิฟอร์เนียและติดตามสถานการณ์วิกฤตไฟป่า พร้อมระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมากมายสุดขั้ว และมองว่าสาเหตุหลักมาจากความบกพร่องของหน่วยงานป่าไม้ ขณะที่นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้ท้าชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐจากพรรคเดโมเครติก หรือเดโมแครต มองว่า มาจากปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง

เกาะติดข่าวที่นี่