‘คล็อปป์’ เขียนจดหมายเปิดผนึก วอนแฟนบอลอย่าเพิ่งออกมาฉลองนอกบ้าน
‘คล็อปป์’ เขียนจดหมายเปิดผนึก วอนแฟนบอลอย่าเพิ่งออกมาฉลองนอกบ้าน
หลังจากที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/20 มาครองได้สำเร็จ แต่ทว่าเกิดปัญหาขึ้นเมื่อแฟนบอลนั้นออกมาแสดงความดีใจกันหน้าสนามแอนฟิลด์ ทั้งๆ ที่ยังคงอยู่ในช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ล่าสุด เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ออกมาเขียนจดหมายเปิดผนึก เพื่อตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นประจำเมืองลิเวอร์พูล โดยเนื้อหาในจดหมายมีดังนี้น
“ถึงผู้อ่านทุกคน ถ้าคุณอ่านหนังสืิอพิมพ์ฉบับนี้อยู่แสดงว่ามีความห่วงใยในเมืองลิเวอร์พูล และอยากรู้เกี่ยวกับเมืองนี้ ดังนั้นถือว่าเรามีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน ผมไม่เคยเขียนจดหมายลงหนังสือพิมพ์มาก่อน ถึงจะออกไปงานแถลงข่าวมาเยอะ และถูกพูดในสื่อมากกว่าปกติ แต่นี่คือความจำเป็นครั้งแรกที่ต้องเขียนจดหมายแบบนี้ขึ้นมา และสาเหตุสำคัยคืออยากคุยกับผู้คนในเมืองโดยตรง”
“นี่คือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟนบอลของสโมสรที่วิเศษแห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ในเมืองอันยอดเยี่ยม สำหรับบางคนนี่คือการรอคอยที่ยาวนานที่จะให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ แต่ไม่ว่าจะรอมา 30 ปี หรือ 30 นาที ผมหวังว่าคุณจะมีความสุขกับช่วงเวลานี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าพวกคุณสมควรจะได้รับมัน”
“มันเป็นเกียรติของผมอย่างมากที่ได้เป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เป็นเกียรติที่ผมพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยทุกวัน ผมรู้ดีว่าการอยู่ตำแหน่งนี้มันทำให้ผมได้ทำงานเพื่อพวกคุณ ผมรู้ว่าลิเวอร์พูลเป็นสถานที่พิเศษตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามารับงานเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่การได้คุยกับผู้คนมันทำให้เข้าใจถึงหัวใจของเมืองนี้อย่างแท้จริง นั่นทำให้ตระหนักว่าเมืองนี้มีความพิเศษมากแค่ไหน”
“สิ่งที่ผมพูดออกไปไม่ได้สื่อถึงเฉพาะแฟนบอลลิเวอร์พูลเท่านั้น แน่นอนว่าผมต้องตัดสินแบบเข้าข้างฝั่งของผมเพราะว่า ลิเวอร์พูล คือสโมสรของผม แต่ผมก็ไม่ได้อคติจนลืมมองไปว่ายังมีแฟนบอลเอฟเวอร์ตันในเมืองนี้ด้วย ความเป็นอริของสองทีมนี้มีความสำคัญต่อเอกลักษณ์ของเมืองนี้มากๆ”
“ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับพวกเขา เพราะถ้าสถานการณ์กลับกันก็คงไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับเรา แต่การมีคาร์โล อันเชล็อตติ ทำงานอยู่หมายความว่าพวกเขาก็มีผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมที่ทำงานให้กับพวกเขา และคาร์โลยังเป็นคนที่ดีด้วย ผมมั่นใจว่าพัฒนาการของพวกเขาจะเป็นไปด้วยดี เอฟเวอร์ตันเป็นคู่แข่งที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน ผมคงไม่ต้องให้ใครมาย้ำเรื่องนี้แน่นอน”
“สำหรับเราการจบฤดูกาลด้วยการมีอันดับเหนือเอฟเวอร์ตัน และอีก 18 ทีมในพรีเมียร์ลีก มันคือความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อ ผมเคารพทุกทีม เพราะพวกเขาทำให้การแข่งขันในอังกฤษมันสูงและน่าสนใจจนแฟนบอลทั่วโลกหลงใหลมัน”
“ผมคิดว่าถ้าหลายคนสนใจเรื่องเราทำคะแนนทิ้งห่างเยอะๆ มันคงเป็นอะไรที่ผิด เพราะมันมีหลายเกมที่เราต้องสู้อย่างหนักเพื่อจะเอาชนะ บางนัดเราต้องเค้นแรงเฮือกสุดท้ายเพื่อหาทางชนะให้ได้ หลายเกมผมเดินเข้าห้องแต่งตัวหลังจบเกมด้วยความรู้สึกทึ่งและดีใจกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็น แล้วพอเข้าไปก็ได้เห็นลูกทีมนั่งหมดแรงสุดๆ เพราะพวกเขาทุ่มเทอย่างมากในสนาม นี่เป็นลีกที่เล่นได้ยาก และเราคว้าแชมป์มาอย่างเหนื่อยสุดๆ ไม่ว่าตารางคะแนนจะเป็นแบบไหนก็ตาม”
“การจะประสบความสำเร็จแบบนี้หมายความว่าเราต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ซึ่งการกระทำและความสำเร็จของบรรดานักเตะเป็นสิ่งที่แทนคำพูดได้ดีกว่าทุกอย่าง รางวัลที่ได้รับมันคู่ควร ในฐานะผู้จัดการทีมพวกเขาผมภาคภูมิใจมากๆ จนภูมิใจมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ในขณะที่ทุกคนสนใจความสามารถกับความทุ่มเท สิ่งที่ถูกมองข้ามคือพวกเขาเข้าใจว่าการเป็นตัวแทนเมืองนี้และการแบกชื่อเมืองนี้มีความหมายมากแค่ไหน ซึ่งทุกคนในทีมเข้าใจเป็นอย่างดี สิ่งนี้เป็นเหมือนเชื้อเพลิงในตัวพวกเขาตลอด และเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราทุกด้าน”
“นอกจากนักเตะชุดปัจจุบัน ผมอยากพูดถึงอดีต 2 นักเตะของเราเป็นกรณีพิเศษ คนแรกคือ เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช เขาคือจิตวิญญาณของสโมสรแห่งนี้ เขาเข้าใจว่าลิเวอร์พูลคืออะไร มีความหมายกับผู้คนมากแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญของทุกอย่างที่เราทำ ผมเห็นว่าเขามีความสุขแค่ไหนตอนที่เราการันตีแชมป์ รอยยิ้มของเขามีความหมายกับผมมากๆ อธิบายออกมาไม่ถูกเลย”
“อีกคนคือสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เปรียบเสมือนขาของทีม ทำหลายอย่างให้กับสโมสรในฐานะนักเตะ ไม่มีใครสมควรได้แชมป์ไปมากกว่าเขา สตีเฟ่นเป็นสัญลักษณ์ของทีมเช่นเดียวกับ เคนนี่ และมันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่ในช่วงเวลาแบบนี้เรายังนึกถึงอดีตนักเตะทุกคน และอดีตผู้จัดการทีมที่พาเรามาถึงจุดนี้”
“บุคคลเหล่านั้นคือคนที่สร้างลิิเวอร์พูลขึ้นมา เช่นเดียวกับเจ้าของทีม ต่อให้ผมจะพูดยกย่องแค่ไหนก็คงทำได้ไม่หมด และต่อให้ผมจะขอบคุณพวกเขามากเท่าไหร่ก็คงไม่พอ ฟุตบอลสมัยนี้ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดี, มียุทธศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม และมีความมุ่งมั่นต่อสิ่งที่ทำอย่างแรงกล้า เพื่อจะได้มีโอกาสประสบความสำเร็จ ซึ่งเฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป ทำให้เห็นว่าเขาทำได้ดีจนเป็นผู้นำทั้ง 3 ด้านนี้ ต้องขอบคุณจากใจจริง”
“เรามีนักเตะที่ยอดเยี่ยม อดีตนักเตะที่สุดยอด และเจ้าของทีมที่ดีมากๆ และยังมีแฟนบอลที่ดีที่สุด จนถึงขนาดที่ทุกทีมก็อยากมีแบบเรา การที่พวกเขามีส่วนสร้างสโมสรแห่งนี้ สร้างแรงกระตุ้นให้สโมสรแห่งนี้ และผลักดันสโมสรให้ทำผลงานออกมาดีที่สุด มันถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ จนถึงว่าถ้าไม่มีสิ่งนี้ เราคงไม่ประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ได้”
“ผมรักในอารมณ์ร่วมของพวกคุณ, เพลงเชียร์ของพวกคุณ, การที่คุณไม่ยอมแพ้, ความมุ่งมั่น เข้าใจในเกมฟุตบอล และความศรัทธาที่มีต่อสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ แม้ว่าจะไม่สามารถเข้ามาชมเกมในสนามได้ แต่มันก็ทำให้รู้สึกเหมือนว่าทุกคนยังอยู่ ด้วยการทำให้เดอะ ค็อป ยังเหมือนเดอะ ค็อป ถึงแม้ว่ามันจะไม่เหมือนช่วงปกติ แต่ผมกับนักเตะนั้นซาบซึ้งมากๆ และมั่นใจว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้เราเล่นได้ดีมากๆ ในเกมกับคริสตัล พาเลซ”
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมไม่ชอบและต้องพูดให้ชัดเจนก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นตรงเพียร์ เฮด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมเองเป็นมนุษย์ อารมณ์ร่วมของพวกคุณก็เป็นอารมณ์ร่วมของผมด้วย เพียงแต่ตอนนี้สิ่งสำคัญคือเราไม่ควรรวมตัวกันในที่สาธารณะแบบนี้ เราเป็นหนี้บุญคุณเหล่าทีมงานทางการแพทย์ ซึ่งเป็นบุคคลที่เสี่ยงที่จะได้รับอันตรายมากที่สุดจากการชุมนุมของเรา พวกเขาทำงานอย่างหนักให้กับเรา ต้องชื่นชมแพทย์, ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือเราอย่างมาก เพราะในฐานะสโมสรเราไม่สามารถทำสิ่งที่พวกเขาทำได้ คุณสามารถฉลองกันได้ แต่โปรดฉลองกันในที่ที่ปลอดภัย และอยู่ในบ้านของตัวเอง ถ้าทำได้จะทำให้ไม่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้ระบาดหนักขึ้น”
“แน่นอนว่าเมื่อถึงเวลาที่สถานการณ์แตกต่างออกไป ผมก็อยากร่วมฉลองกับทุกคน อยากจัดขบวนแห่ฉลองแชมป์ที่ใหญ่ยิ่งกว่าตอนเราได้แชมป์ยุโรปเมื่อปีก่อน เพราะจะได้มีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมด้วยกัน แต่ตอนนี้เรายังทำไม่ได้ ที่ผ่านมาเราต่อสู้กับโควิด-19 อย่างหนัก และเราจะปล่อยให้ความพยายามตรงนั้นสูญเปล่าไม่ได้ เราทุกคนจะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง และตอนนี้สิ่งนั้นคือการรวมพลังกันและช่วยเหลือกันด้วยการอยู่ห่างๆ กัน”
“เมื่อถึงเวลาแล้วเราจะฉลองกันแน่นอน เราจะสนุกกับช่วงเวลานี้ และทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยสีแดง แต่ตอนนี้ช่วยอยู่บ้านกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะออกมารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่หรือใจกลางเมือง หรือไปอยู่ใกล้สนามฟุตบอล ตอนที่โรคเริ่มระบาดใหม่ๆ ผมเคยบอกแล้วว่าเราไม่อยากเล่นในสนามแบบปิด แต่ถ้ามันจะทำให้คนมีสุขภาพที่ดี เราก็พร้อมจะทำโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ และจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนความคิดนี้ผมไปได้”
“ก่อนที่ผมจะมาคุมลิเวอร์พูล ผมรู้จักคำว่า solidaritat (แปลว่า เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน) ดีอยู่แล้ว และผมก็ชอบมันมากๆ ซึ่งตอนนี้ผมได้รู้ว่าภาษาอังกฤษที่มีความหมายเดียวกันคือคำว่า solidarity ผมได้ยินว่าแฟนบอลของเราใช้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สำหรับผมมันคือคำที่สื่อถึงแฟนบอลลิเวอร์พูลได้ดีกว่าทุกคำพูด มันคือสาเหตุที่พวกเขาทำอุปกรณ์ป้องกันเชื้อ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาจัดเตรียมอาหาร และยาไปบริจาคให้กับคนที่ต้องการมากที่สุด เป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขารวมพลังกันทำเรื่องยากลำบากหลายอย่างในช่วงที่เลวร้ายแบบนี้”
“ถ้าเรายังรวมพลังกันด้วยการอยู่ห่างกันแบบนี้ เราจะมีส่วนสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อโรคร้ายนี้ ผมรู้ว่าเราสามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะผมเคยเห็นว่าเราสร้างความแตกต่างได้อย่างไร ซึ่งผมและนักเตะก็ได้รับประโยชน์จากมัน หวังว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผมจะได้เขียนจดหมายที่ ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ อีกครั้งเพื่อขอบคุณทุกคน ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ มากกว่าสิ่งอื่นๆ มันไม่มีอะไรที่ผมจะภูมิใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว”
“ตอนนี้ ผมอยากขอบคุณแฟนบอลลิเวอร์พูล และผู้คนในเมืองที่ช่วยให้เราเป็นแชมป์ นี่คือช่วงเวลาของเรา เป็นช่วงเวลาพิเศษในชีวิตของเรา พวกคุณคือคนที่ทำให้มันเกิดขึ้นมา พวกคุณเป็นแชมป์ในเส้นทางของตัวเอง เรารอไม่ไหวแล้วที่จะได้ฉลองความสำเร็จที่พวกคุณทำได้”
“คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย”