ขายอะไรดี? เจาะอินไซด์แกร็บ คนไทยสั่งเมนูไหน ผ่าน "ฟู้ดเดลิเวอรี" เยอะสุด ประจำปี 2025

แกร็บ(ประเทศไทย) เปิดเมนูยอดฮิต "ฟู้ดเดลิเวอรี" ประจำปี 2025 พบคนไทยสั่ง "ส้มตำปูปลาร้า-ชาเย็น" มากสุด ทะลุ 16 ล้านจาน 11 ล้านแก้ว
ข้อมูลเจาะลึกอินไซด์พฤติกรรมคนไทย กับการสั่งอาหารส่งตรงถึงบ้าน หรือฟู้ดเดลิเวอรี รวมไปถึงจุดหมายปลายทางของการเรียกใช้บริการรถขนส่งในปีนี้ยังคงน่าสนใจ เพราะเทรนด์ยังคงเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และเหตุการณ์สำคัญๆ ในประเทศ เช่น การกินชาเย็นปีนี้แซงอเมริกาโนเย็นในปีก่อน ที่บ่งบอกว่าตลาดชากำลังมาแรงแซงหน้ากาแฟหรือไม่ และคนดังอย่างลิซ่าที่กินชาไทย ก็มีส่วนช่วยทำให้เกิดกระแสไวรัล รวมไปถึงการเดินทางไปไหว้พระ ไปขอพร มูเตลูก็มาเป็นอันดับหนึ่ง บ่งบอกถึงความไม่มั่นคงทางจิตใจของผู้คน
ข้อมูลล่าสุดนี้ เปิดเผยมาจาก "แกร็บ" แพลตฟอร์มสำหรับบริการเรียกรถและฟู้ดเดลิเวอรีในประเทศไทย ที่ระบุเทรนด์ “ที่สุดแห่งปี 2025” ที่รายงานครอบคลุมทั้งบริการการเดินทางและสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน
เริ่มเจาะกันที่บริการฟู้ดเดลิเวอรีประจำปีนี้ พบว่า ส้มตำยังครองใจคนไทยมากที่สุด ยอดสั่งมากที่สุด ครองแชมป์เมนูเบอร์ 1 ด้วยยอดสั่งกว่า 16 ล้านจานต่อปี โดยเฉพาะส้มตำปูปลาร้าที่มียอดสั่งเยอะที่สุด ตามมาด้วยอันดับที่สอง คือ ข้าวมันไก่ ยอดขายกว่า 1ล้าน 5 แสนจาน จากกระแสไวรัลของ Gundum Effect ในญี่ปุ่นที่ส่งผลมาถึงความนิยมของเมนูข้าวมันไก่ในประเทศไทย และตามมาด้วยอันดับที่ 3 คือ ลาบหมู ด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านจาน
ส่วนเครื่องดื่มขายดี ปีนี้เมนู “ชาเย็น” ซึ่งรวมทั้งชาไทยและชานมไข่มุก มาแรงแซงทางโค้ง ปาดหน้าแชมป์เก่าอย่างอเมริกาโนเย็นปีก่อน จากยอดสั่งรวมทั้งปีกว่า 11 ล้านแก้ว ซึ่งอิทธิพลส่วนหนึ่งมาจากสาวไทยคนดังระดับโลก อย่างลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือลิซ่า แบล็กพิงค์ ที่มีการร่วมทำคอลแลปกับ Erawhon ในชื่อเมนู “Thai up the World by Lisa” จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก ส่วนเมนูที่สั่งเยอะรองลงมา ก็ยังคงเป็นชาเช่นกัน แต่เขยิบไปเป็นชาเขียว โดยเฉพาะชาเขียวญี่ปุ่น ด้วยยอดขายกว่า 9 ล้านแก้ว ที่เกิดกระแสมัตจะ (มัทฉะ) ฟีเวอร์ สินค้าขาดตลาดจนกลายเป็นไวรัลข้ามปี ขณะที่ อันดับสาม ก็คือ “อเมริกาโนเย็น” ยอดสั่งรวมกว่า 8 ล้านแก้ว
ไปต่อกันที่กลุ่มของดาวรุ่งพุ่งแรงประจำปีนี้กันบ้าง ที่มียอดสั่งโตหลายเท่าตัว เริ่มจากเบเกอรี ขนมปังอบ ปรากฎว่า ดาวรุ่ง ตกเป็นของ “ชิโอะปัง” หรือขนมปังเกลือที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น ไปดังในเกาหลี จนไวรัลมาถึงไทย ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นกว่า 36 เท่า ส่วนดาวรุ่งในกลุ่มน้ำ คือ “ชาองุ่นเคียวโฮปั่นทอปอัปด้วยครีมชีส” มาแรงสุดในกลุ่มเครื่องดื่มด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นกว่า 17 เท่า ขณะที่อาหารญี่ปุ่นอย่าง ข้าวปั้น “แฮนด์โรล” มีรายงานยอดสั่งเติบโตพุ่งขึ้นไปมากกว่า 300%
จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน ปี 2025 ปีแห่งการ "คอลแลปแบรนด์"
ข้อมูลจากแกร็บ เผยว่า เทรนด์มาแรงของการตลาดและกลยุทธ์สำคัญในปีนี้ คือ การคอลแลปกันระหว่างแบรนด์ (Collaboration Marketing) ยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสีสันและความแปลกใหม่ตลอดทั้งปีนี้
สำหรับสุดยอดคอลแลปเมนูที่ขายดีที่สุดในปีนี้ คือ โปรเจกต์ “Proudly, Made in Thailand” ที่แบรนด์ทาร์ตไข่สเปเชียลตี้ยอดนิยมอย่าง YOLK ได้ผนึกความร่วมมือกับ 4 แบรนด์ไทยชั้นนำ อันได้แก่ โอ้กะจู๋ โรงคั่วกาแฟทรงวาด แก้วบูทีค และเจี้ยนชา ซึ่งเป็นการจับมือกันรังสรรค์เมนูคอลแลปส์ 4 รสชาติพิเศษที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทย และกระแสตอบรับดี จนช่วยดันให้ยอดขายต่อวันเติบโตขึ้น 48 %
นอกจากนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การสั่งอาหารผ่านฟู้ดเดลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น เทรนด์ที่มาแรงไม่แพ้กัน คือ การใช้แอปฯ เพื่อหาดีลส่วนลดและจองร้าน เพื่อไปนั่งกินที่ร้านเอง ก็มีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แกร็บระบุว่ผู้ใช้บริการจะเลือกหาซื้อดีลส่วนลดและใช้บริการจองร้านผ่านแอปพลิเคชันในโอกาสพิเศษ หรืออาจจะไปรับประทานอาหารกันเป็นกลุ่ม
สำหรับโดย 3 ประเภทร้านที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ บุฟเฟต์ ร้านปิ้งย่าง และร้านอาหารญี่ปุ่น ส่วนร้านที่มาแรงที่สุดแห่งปี คือ “Kanori Hand Roll Bar” ที่ถือเป็นผู้บุกเบิกร้านแฮนด์โรลสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในไทย ด้วยยอดขายเติบโตกว่า 5 เท่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ตลาดบริการเรียกรถโตสดใส เรียกรถไหว้พระขอพรพุ่ง เมืองรองโตแกร่ง จากมาตรการรัฐส่งเสริมการท่องเที่ยว
อินไซด์การเดินทางเรียกรถ ปีนี้ คนไทยและต่างชาติ สายมูมาแรงที่สุด เรียกรถไปไหว้พระพิฆเนศ พุ่ง 678%
“เทวาลัยพระพิฆเนศ” บริเวณสี่แยกห้วยขวาง กลายเป็นฮอตสปอตแห่งใหม่ที่มาแรงที่สุด ด้วยยอดเรียกรถที่เติบโตขึ้นถึง 678% เนื่องจากคนไทยสายมู รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมไปไหว้เพื่อขอพรเรื่องความสำเร็จและเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ส่วนด้านแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พระบรมมหาราชวัง ถนนข้าวสาร และเยาวราช
นอกจากนี้การจัดคอนเสิร์ตของศิลปินต่างๆในบ้านเรา ก็ยังคงส่งผลดี ทำให้ยอดใช้บริการเรียกรถเติบโตขึ้น โดยเฉพาะคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR IN BANGKOK เมื่อเดือนตุลาคม ทำให้ยอดเรียกรถเพื่อเดินทางไปราชมังคลากีฬาสถานเติบโตขึ้นเกือบ 5 เท่าจากช่วงปกติ
ส่วนในกลุ่มของเทศกาล พบว่าลอยกระทงมีการเรียกรถเยอะสุด รองลงมาคือ เทศกาลสงกรานต์
ข้อมูลจากแกร็บเปิดเผยอีกว่า บริการเรียกรถผ่านแอปฯ ยังคงเติบโตและได้รับความนิยมทั้งจากผู้ใช้บริการชาวไทยและชาวต่างชาติ โดย 3 จุดหมายปลายทางหลักที่ผู้ใช้บริการนิยมเดินทางไปมากที่สุด คือ สนามบิน สถานีขนส่ง และห้างสรรพสินค้า สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 ชาติที่ใช้บริการมากที่สุด คือ จีน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อังกฤษ และมาเลเซีย ขณะที่นักท่องเที่ยวจาก “ประเทศจอร์เจีย” ถือเป็นกลุ่มที่มาแรงที่สุดด้วยยอดใช้บริการที่เติบโตขึ้นกว่า 10 เท่า
ในด้านเมืองท่องเที่ยว เชียงใหม่ ภูเก็ตและพัทยา เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ส่วนจังหวัดเมืองรองได้อานิสงส์ของนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล เช่น “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” “เที่ยวดีมีคืน” โดย 5 จังหวัดเมืองรองที่มียอดใช้บริการเรียกรถสูงที่สุด คือ อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงราย พิษณุโลก และนครสวรรค์ ขณะที่ “นครนายก” ถือเป็นจังหวัดที่มาแรงที่สุดด้วยยอดเรียกรถที่เติบโตขึ้นกว่า 9 เท่า เนื่องจากเดินทางใกล้ สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ และมีแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญอย่างเขื่อนขุนด่านปราการชล น้ำตกนางรอง อุทยานวังตะไคร้ รวมถึงทุ่งบัวแดง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
