รีเซต

ชาวนาสุดทน เจอฝนหลงฤดู ตากข้าวไม่แห้ง แถมโรงสีกดราคา ร้องรัฐช่วยเพิ่มราคาเป็น 15-18 บาท/กก.

ชาวนาสุดทน เจอฝนหลงฤดู ตากข้าวไม่แห้ง แถมโรงสีกดราคา ร้องรัฐช่วยเพิ่มราคาเป็น 15-18 บาท/กก.
มติชน
26 พฤศจิกายน 2565 ( 17:32 )
137
ชาวนาสุดทน เจอฝนหลงฤดู ตากข้าวไม่แห้ง แถมโรงสีกดราคา ร้องรัฐช่วยเพิ่มราคาเป็น 15-18 บาท/กก.

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 นายอำนาจ ทวีกัณฑ์ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว จ.อำนาจเจริญ. กล่าวว่า วันสองวันที่ผ่านมา และวันนี้ มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ข้าวที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวจมน้ำระนาวซึ่งยากแก่การเก็บเกี่ยว และที่สำคัญนำมาตากไว้พอจะแห้งก็มีฝนตกลงมาอีก ทำให้นำไปจำหน่ายไม่มีราคาโดนโรงสีกดราคาหักความชื้นออกเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญในการเก็บเกี่ยวข้าวที่จมน้ำ รถเกี่ยวข้าวจะเอาราคาแพงจากไร่ละ 800 บาทขึ้นไป แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราจำเป็นต้องขายข้าวในระยะนี้เพราะไม่มีเงินที่จะให้ค่าเกี่ยวข้าวและค่าปุ๋ยที่ติดหนี้เขาไว้ ส่วนบรรดาผู้มีอันจะกินต้องเก็บข้าวไว้ก่อน พอได้เวลาข้าวมีราคาสูงขึ้นจึงนำออกมาขาย แต่ทางเราทนไม่ไหวต้องรีบขายให้เร็วที่สุดเพื่อจะนำเงินมาใช้หนี้

 

จึงอยากขอวิงวอนให้ทางภาครัฐขยับราคารับซื้อข้าวให้สูงขึ้นจากเดิมกิโลกรัมละ 12 บาท ให้ขายได้ในกิโลกรัมละ 15-18 บาทจึงจะอยู่รอดและพอได้ใช้เป็นค่าหนี้ค่าปุ๋ยค่าแรงเกี่ยวข้าวค่าปักดำ เป็นต้น. ส่วนราคาประกันราคาข้าว ในนาราคาไร่ละ 1,000 บาทนั้น รู้สึกว่าราคานั้นน้อยเกินไป อยากได้ไร่ละ 2,000 บาทถึง 3,000 บาทจึงจะคุ้มราคาต้นทุนผลิต เพราะราคาปุ๋ยแพงซะเหลือเกิน ชาวนาต้องน้ำตาตก เพราะมาในเวลานี้มีฝนตกหนักลงมาแทบทุกคืนเป็นอุปสรรคในการเก็บเกี่ยวนาข้าวเป็นอย่างมาก. เพราะราคาต้นทุนการผลิตสูงเป็นหลายเท่าฝากถถึงรัฐบาลด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง