'ชินวรณ์' แจงพรบ.งบปี64 เบิกใช้ไม่ทัน 1 ต.ค. เหตุพิจารณาตามขั้นตอน
วันนี้ (14ก.ย.63) จากกรณีร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ภายหลังผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ถึงหน่วยงานราชการทั่วประเทศ ระบุงบประมาณ 64 เบิกใช้ไม่ทันวันที่ 1 ต.ค. นี้ โดยให้เบิกจ่ายกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ใช้ก่อนได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของงบที่ตั้งไว้
จากประเด็นดังกล่าว นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงยืนยันว่า การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เป็นไปตามขั้นตอน และไทม์ไลน์ที่กำหนด ซึ่งหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ในวาระ2 และ3 แล้วเสร็จ ในวันที่ 18 กันยายนนี้ จะส่งไปยังวุฒิสภา เพื่อพิจารณาและลงมติ ในวันที่ 22 กันยายน ก่อนส่งต่อไปที่คณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรี มีเวลา 15 วัน เพื่อนำร่างงบประมาณดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ให้มีผลบังคับใช้ ดังนั้นเมื่อพิจารณาจาก กรอบเวลาที่กำหนด คาดว่างบประมาณ 64 จะมีผลบังคับใช้ได้ ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้
สำหรับการพิจารณาร่างงบประมาณ 64 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ ที่มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระ 2 และวาระ 3 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันที่ 16 – 18 กันยายน เวลา 09.30 น.
ทั้งนี้ มีผลการพิจารณาที่สำคัญคือ งบประมาณที่ตั้งไว้ 3.3 ล้านล้านบาท ได้ปรับลดตามมติของกรรมาธิการ 31,965 ล้านบาท , จัดสรรเพื่อให้ส่วนราชการตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอตามความเหมาะสมและจำเป็น 17,419 ล้านบาท, จัดสรรให้หน่วยงานของรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและองค์กรอัยการ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 509 ล้านบาท และคงตั้งงบประมาณไว้ 3.285 ล้านล้านบาท หรือปรับลดงบประมาณจากที่กำหนดไว้ในหลักการ 16,037 ล้านบาท
สำหรับรายการเปลี่ยนแปลงงบประมาณพบว่า รายการปรับลดมียอดรวมทั้งสิ้น 24,789 ล้านบาท อาทิ กระทรวงกลาโหม ปรับลด 7,788 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายการของโครงการผูกพันข้ามปี, กระทรวงมหาดไทย ปรับลด 3,863 ล้านบาท, กระทรวงศึกษาธิการ ปรับลด 1,853 ล้านบาท, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ปรับลด 1,208 ล้านบาท, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรับลด 1,175 ล้านบาท
ขณะที่รายการเพิ่มให้กับ 1.กระทรวงมหาดไทย เพิ่ม 10,656 ล้านบาทให้กับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แบ่งเป็น โครงการเบี้ยผู้สูงอายุ 588 ล้านบาท, โครงการเบี้ยผู้ด้อยโอกาส 5.1แสนบาท และโครงการเพิ่มศักยภาพท้องถิ่นสู่การกระจายอำนาจ 10,067 ล้านบาท, 2.ศาลยุติธรรม 509 ล้านบาท, 3.แผนงานบุคลากรภาครัฐ 5,679 ล้านบาท มีรายการสำคัญคือเป็นค่าตอบแทนของบุคลากรในหน่วยงานสาธารณสุข , 4. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา 1,083 ล้านบาท
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE