สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย ขยายความร่วมมือออคัส ครอบคลุมอาวุธเหนือเสียง
แถลงการณ์ร่วม ของผู้นำออคัส ซึ่งประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศว่า พวกเขามีความยินดีกับความก้าวหน้าของโครงการเรือดำน้ำติดอาวุธแบบดั้งเดิมของออสเตรเลีย และพวกเขาจะร่วมมือกันในด้านอื่นด้วย
โดยได้ตกลงกันที่จะเริ่มความร่วมมือไตรภาคีใหม่เกี่ยวกับไฮเปอร์โซนิก การต่อต้านไฮเปอร์โซนิก การพัฒนานาศักยภาพการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนขยายการแบ่งปันข้อมูล และเพิ่มความร่วมมือด้านนวัตกรรมกลาโหม
ทั้งสามประเทศระบุว่า ความร่วมมือนี้จะยกระดับความร่วมมือให้ลึกซึ้งขึ้นในหลายด้านที่ทั้งสามชาติได้เคยตกลงกันไปแล้วเช่น ด้านแสนยานุภาพทางไซเบอร์ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เทคโนโลยีควอนตัม และแสนยานุภาพใต้น้ำ นอกจากนี้พันธมิตรออคัสจะแสวงหาโอกาสในการดึงพันธมิตรและหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดอื่น ๆ มาร่วมด้วย
◾◾◾
🔴 ออคัส สร้างรอยร้าวในหมู่ชาติตะวันตก
ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ผู้นำของสามชาติได้ประกาศข้อตกลงด้านความมั่นคงครั้งประวัติศาสตร์ที่ชื่อออคัส ซึ่งรวมถึงการด้านทอดเทคโนโลยีด้านความมั่นคง เช่นเรือดำนำพลังงานนิวเคลียร์ให้แก่กัน จนนำไปสู่ความไม่พอใจของจีน
แถลงการณ์ร่วมในครั้งนี้ยังกล่าวถึงการที่รัสเซียบุกยูเครน ทำให้สามชาติไตรภาคีต้องเน้นย้ำพันธะสัญญาที่มีต่อระบบสากลในเรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชน หลักกฎหมาย และการแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติ และพวเขายังย้ำถึงพันธะสัญญาที่มีต่ออินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างด้วย
◾◾◾
🔴 จีนเตือนอาจเติมเชื้อไฟยูเครน
ด้านจ้าง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ เตือนว่ามาตรการเหล่านี้ของออคัส อาจเติมเชื้อไฟให้เกิดวิกฤต เช่น ที่เกิดขึ้นกับยูเครนให้กับพื้นที่อื่นๆของโลกได้ เขากล่าวว่า ไม่มีใครอยากเห็นวิกฤตแบบยูเครน ดังนั้นเราจึงควรระงับการกระทำที่อาจทำให้พื้นที่อื่นของโลกเข้าสู่วิกฤตเช่นนั้น
เขากล่าวว่า “หากคุณไม่ชอบอะไร ก็อย่าทำสิ่งนั้น”
◾◾◾
🔴 หลายชาติรุกหนักด้านอาวุธเหนือเสียง
รัสเซีย จีน สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ต่างมีการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงมาแล้ว
ก่อนที่พันธมิตรออคัสจะประกาศความร่วมมือดังกล่าว รัสเซียได้ประกาศว่าใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเป็นครั้งแรกในปฏิบัติการทางทหารในยูเครนด้วย
ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงนั้นสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ และยังสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าความเร็วเสียงมากกว่าห้าเท่า และมีความสามารถในการหลบหลีก ทำให้ยากต่อการตรวจจับ เพื่อหยุดยั้ง
หน่วยงานบริการวิจัยของสภาคองเกรสสหรัฐฯ หรือ CRS เผยว่า รัสเซียดูเหมือนจะเป็นชาติที่มีความก้าวหน้าในด้านนี้มากที่สุด ส่วนจีนก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างรุกหนักเช่นกัน
ด้านฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ก็กำลังพัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ส่วนอิหร่าน อิสราเอล และเกาหลีใต้ ได้จัดทำการวิจัยพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้แล้ว
◾◾◾
🔴 สหรัฐฯ ลอบทดสอบขีปนาวุธเหนือเสียง
มีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทดสอบขีปนาวุธเหนือเสียงของบริษัท Lockheed Martin โดยสำนักข่าว RT และ CNN รายงานตรงกัน อ้างอิงคำกล่าวของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทดสอบขีปนาวุธเหนือเสียงประเภท Air-breathing Weapon Concept (HAWC) แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน เก็บไว้เป็นความลับ เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์กับรัสเซียตึงเครียดไปมากกว่านี้
ข้อมูลจาก CNN ระบุว่า ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ถูกยิงจากเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 นอกชายฝั่งทางตะวันตกของสหรัฐฯ และทะยานด้วยความสูง 20,000 เมตร และเดินทางไกลกว่า 480 กิโลเมตร แต่แหล่งข่าวไม่ได้เปิดเผยถึงระดับความเร็ว แต่เชื่อว่ามีความเร็วมากกว่า 5 มัค
ถ้าข้อมูลได้รับการยืนยัน นี่จะถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธเหนือเสียงสำเร็จครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ
ดีไซน์ของขีปนาวุธเหนือเสียงสหรัฐฯ ค่อนข้างแตกต่างจากที่รัสเซียใช้ยิงโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 18 มีนาคม เพราะมีลักษณะเป็นขีปนาวุธที่ใช้จรวดเพิ่มความเร็ว ไปถึงจุดที่เครื่องยนต์ของขีปนาวุธจะจุดชนวนเพื่อทำให้ถึงจุดที่มีความเร็วเหนือเสียง
—————
ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด
https://bit.ly/TNNRussiaInvasion
—————
แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง
ภาพ: Reuters and Getty Image